อาถรรพณ์เลข 13 เลข 13 เป็นเลขอาถรรพณ์มาแต่สมัยโบราณ เป็นเลขที่เข้าใจกันว่ายึดถือกันมาตั้งแต่สมัยอียิปต์ และบาบิโลเนียแล้ว ล่วงมาคริสตกาลก็ยิ่งเชื่อถือกันหนักยิ่งขึ้น ด้วยพระจีซีสไครส์ ซึ่งเป็นพระบรมศาสดาของชาวคริสเตียน ได้ร่วมเสวยพระกระยาหารร่วมกับบรรดาอัครสาวก 12 คน รวมทั้งองค์ศาสดาด้วยเป็น 13 คนด้วยกัน วันนั้นตรงกับวันศุกร์ และเป็นวันที่ 13 ท่านมหาศาสดาเอกของโลกก็ถูกทหารโรมันจับเอาไปตรึงไม้กางเขน จึงยึดถือว่าวันศุกร์ที่ 13 เป็นวันร้ายเรียกว่า กู๊ดไฟรเดย์ เพื่อให้กลายเป็นดี เรื่องราวเกี่ยวกับศุกร์ 13 นี้คนสมัยใหม่หลายคนไม่ยึดถือ ทางราชนาวีของอังกฤษประสงค์จะทำลายความเชื่อนั้น ได้พยายามพิสูจน์ว่าวันศุกร์ที่ 13 เป็น กู๊ดไฟรเดย์จริง ๆ มิใช่แก้เคล็ดดังที่เข้าใจกันมีการบันทึกถึงเรื่องเกี่ยวกับเลข 13 ดังนี้ในภัตตาคารทั่วยุโรปจะไม่มีที่นั่งไว้ 13 ที่ ถ้าจำเป็นจะต้องเกินไว้เป็น 14 ที่เพื่อแก้เคล็ดโรงแรมทุกแห่งในยุโรปจะไม่มีหมายเลขห้องเป็นเลข 13 เลย จะข้ามเลข 13 ไปเสียนอตเครื่องยนต์กลไกทุกชิ้นจะข้ามเลข 13 ไปหมดสิ้น หากว่ามีนอตเบอร์ 13 เข้าไปเกี่ยวข้อง ถือว่าจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายในภายหลัง
มีผู้กล่าวว่าเลข 13 นี้ เชื่อถือกันในแถบเหนือของยุโรปทางสแกนดิเนเวีย เล่าถึงเทพผู้มีศักดิ์มาชุมนุมกัน 12 องค์ บังเอิญเทพองค์ที่ 13 เข้ามาร่วมด้วยโดยไม่ได้รับเชิญงานเลี้ยงนั้นจบลงด้วยการรบราฆ่าฟันและเทพเจ้าที่เสียชีวิตในครั้งนั้นคือเทพที่มีชื่อว่า บาลดูร์ ซึ่งเป็นที่รักใคร่ของมนุษย์และเทวดา ส่วนเทพองค์ที่ 13 ซึ่งเข้ามาร่วมดัวยโดยมิได้รับเชิญ
เป็นเทพเจ้าแห่งการสงครามอันมีชื่อว่า โลกินักเดินเรือชาวยุโรปถือเรื่องเลข 13 กันมาก จะไม่ยอมออกเรือในวันที่ 13 เป็นอันขาดในอิตาลี ตุรกี และอิหร่าน ยึดถือเลข 13 กันมาก เลข 13 ชาวตุรกีจะไม่ยอมพูดถึงด้วยซ้ำไปชาวคริสเตียนฝ่ายคาทอลิกถือว่า เลข 13 เป็นเลขแม่มด หรือซาตานเป็นผีร้ายให้โทษ
ฝรั่งถือว่าวันที่ 13 ตรงกับวันศุกร์ เรียกว่า เวเนอร์ ออนไฟรเดย์ คือจะไม่ทำอะไรในวันศุกร์ที่ 13
บุคคลที่มีชื่อโดยนับทั้งสระ และพยัญชนะได้จำนวน 13 ชีวิตจะต้องประสบความเคราะห์ร้ายอย่างรุนแรงในบั้นปลายเสมอเลขที่บ้าน เลขรถยนต์ที่ขึ้นต้นด้วย 1 และลงท้ายด้วย 3 หรือบวกกันได้ 13 มักมีเหตุร้ายเกิดขึ้นเสมอ ถ้าเป็นรถยนต์ก็มักจะมีการชน และมีคนตาย มีเหตุต่าง ๆ ถ้าเป็นบ้านก็จะไฟไหม้ จะวิบัติต่าง ๆ นานา