ค้นหา

ที่นี่มีผี..รวมเรื่องลึกลับสยองขวัญสั่นประสาทตาเหลือกตากลับ
บางทีก็น่ากลัวบางทีก็ไม่น่ากลัวรวมๆกันไป
ที่นี่เปิด รับทุกอย่างที่เกี่ยวกับผีๆวิญญาณ
ท่านใดชอบเรื่องผีหรือมีคลิปผีถ่ายติดวิญญาณ.. น่าสนใจ..
ติดต่อส่งตั้งกระทู้มาที่ ghost-in-manman ด้านข้างครับ
แนะนำข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเชิญได้ครับ
ดูเว็บ ghost-in-manman แล้วหาความรู้เพิ่มเติม..ไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่ครับ
สุดท้ายขอขอบคุณเพื่อนๆที่ให้ความสนใจและ ให้ข้อมูลเรื่องน่ากลัวๆเรื่องประสบการณ์ทางวิญญาณ มาทางเราจะนำมาลงให้อ่านกันในครั้งต่อไปนะครับ.....
อย่าลืมดูเว็บ ghost-in-manman

chat love manman1

chat love manman 2

chat love manman 3

chat love manman 4

chat love manman 5

chat love manman6

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ร้านสะดวกซื้อ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ร้านสะดวกซื้อ แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สยองร้านสะดวกซื้อ


มาอ่านเรื่องสยองก่อนนอนกัน
เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณออ (นามสมมติ) ครับ คุณออเล่าว่า.. ประมาณ 10 ปีที่แล้ว เราทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง เราอยู่กะบ่าย - กะกลางคืนค่ะ ร้านสะดวกซื้อที่เราไปทำงานอยู่นั้น ขึ้นชื่อว่าเจ้าที่แรงมาก ซึ่งเราก็พอได้ฟังมาอยู่บ้างจากผู้จัดการร้าน และพี่ๆ พนักงานที่เคยทำงานมาก่อน ปกติเราเป็นคนกลัวผีมาก แต่ก็เป็นที่เคยเจอบ่อยเหมือนกันค่ะ.. ร้านนี้จะมี 2 ชั้น สต๊อคสินค้าจะอยู่ชั้น 2 โดยชั้น 2 จะแบ่งเป็นห้องของแห้ง ห้องเครื่องดื่ม และอีกห้องคือห้องผู้จัดการ แต่ผู้จัดการไม่ค่อยได้ไปนั่งหรอกค่ะ จะอยู่หน้าร้านเสียมากกว่า ห้องนั้นเลยเป็นห้องสำหรับไว้ไหว้เจ้าที่

คืนหนึ่ง เราอยู่กับพี่ปอ และ พี่ตอ (นามสมมติ) พี่ตอได้ถามเราว่า ‘จริงไหม? ที่เขาว่ากันว่าที่นี่ผีดุ พี่กลัวจัง..’ เราเลยพูดเชิงแหย่พี่ตอเล่นว่า ‘หนูก็ไม่รู้ เพราะหนูไม่เคยเจอ เคยแต่ได้ยินเขาเล่ากัน จะมาตอนไหนเดี๋ยวพี่ก็เห็นเองแหละ’ ..จนกระทั่งประมาณเกือบตี 4 เราขอตัวไปเติมของในตู้แช่เครื่องดื่ม โดยจะต้องเข้าไปเติมหลังร้าน มันจะเป็นประตูใหญ่ๆ คล้ายประตูตู้เย็น ที่เวลาปิดมันจะดัง ‘ตับ!’ ในขณะที่เรากำลังก้มเติมของอยู่นั้น หางตาเราก็เห็นว่ามีคนเดินมาอยู่ทางซ้ายมือ แล้วหยุดอยู่ตรงข้างๆ เรา ตามด้วยเสียงของพี่ปอพูดว่า ‘ไปช่วยพี่ตอปิดผลัดหน่อย เจ๊แกทำไม่เป็น!’ เราก็ตอบไป ‘ได้ๆ รอเดี๋ยวนะพี่ปอ!’ เราคิดในใจว่าพี่ปอนั่นแหละที่เดินมาเรียก แต่อีกใจเราก็คิดว่า ทำไมเข้ามาแล้วถึงไม่มีเสียงปิดประตูล่ะ หรือพี่ปอไม่ได้ปิดประตู? 


ในที่สุดเราก็ลุกขึ้นยืนมองไปที่ประตู และพบว่าประตูมันปิดสนิทอยู่ พอมองไปรอบๆ ก็ไม่มีใครอยู่ในห้องเลย.. เรานี่หน้าชาเลยค่ะ.. พอออกไปหน้าร้านเห็นพี่ปอ เราเลยรีบถามว่า ‘พี่ได้เข้าไปเรียกหนูข้างหลังตู้แช่หรือเปล่า?’ พี่ปอบอกว่า ‘บ้า! ฉันยังไม่ได้เข้าไปในตู้แช่เลยทั้งคืน ฉันเปิดประตูจากข้างหน้าเรียกแกย่ะ!’ (หมายถึงประตูตู้แช่ด้านหน้าที่ลูกค้าหยิบของ) เรานี่ขนลุกเลยค่ะ เพราะตอนนั้นคือแน่ใจว่ามีคนเดินมาหยุดอยู่ข้างเราแน่ๆ เราเลยเล่าให้พี่ปอ และพี่ตอฟัง ทุกคนพากันหลอนกันหมดเลย พี่ตอบอกเราว่า ‘เห็นไหม แกพูดอะไรออกไป เจอดีเลย!’

ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ ยังมีคนเจอหนักกว่าเราอีกค่ะ อย่างน้องที่มาฝึกงานเป็นผู้ชาย คืนนั้นน้องเขาอยู่กะดึกกับเรา แล้วจะแอบอู้ เลยโกหกว่าจะขึ้นไปเอาของที่ชั้น 2 ลงมาเติม แต่น้องกลับไปยืนเล่นมือถือสบายใจ ปรากฏว่าสักพักนึง น้องมันก็วิ่งหน้าตื่นลงมา บอกว่ามันเหลือบไปเห็นผู้หญิงหน้าขาวๆ ผมยาว ตาแดงก่ำ ชะโงกหน้าออกมามองจากห้องผู้จัดการที่เอาไว้ไหว้เจ้าที่ แล้วก็ชะโงกกลับไป..
หรือพี่กะดึกรุ่นก่อนคนหนึ่งก็เคยเล่าว่า ในคืนหนึ่งราวตี 2-3 เป็นคืนที่ฝนตกหนัก มีผู้หญิงคนหนึ่งตากฝนตัวเปียกชุ่มเข้ามาที่ร้าน หน้าตาซีดเซียว และเสื้อผ้ามีรอยเลือดแดงฉาน พี่ที่ร้านก็ตกใจว่าเธอไปโดนอะไรมา?

 แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็รอเธอคนนั้นจะมาคิดเงิน แต่รออยู่นานสองนานก็ไม่เห็นเธอจะมา จึงลองเดินออกจากเคาน์เตอร์ไปดู และดูในจอกล้องวงจรปิด แต่ปรากฏว่าในร้านกลับไม่มีใครอยู่เลย..

เรื่องต่างๆ ที่เคยได้ยินมาก็ทำเราหลอนนะคะ จนเราทำงานที่นี่ได้ประมาณปีกว่าๆ ก็ออกละค่ะ.. ก่อนออกเราได้ถามป้าที่บ้านเขาอยู่ข้างร้าน ป้าแกเล่าว่า ก่อนที่เขาจะมาเปิดเป็นร้านสะดวกซื้ออย่างทุกวันนี้ ที่นี่น่ะเคยเป็นที่ทำแท้งเถื่อนเก่ามาก่อนค่ะ..
Story by คุณออ (นามสมมติ) the house

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

วิญญาณผีตาเหลือก..ในร้านสะดวกซื้อ!!!

ถ้าพูดถึงเรื่องผีๆ สางๆ นี่หนูยอมรับว่ากลัวบ้างค่ะ แต่ไม่ถึงขึ้นสมอง ปกติจะไม่คิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าเลิกงานหัวค่ำก็เดินเข้าซอยได้สบายๆ การเป็นพนักงานในร้านสะดวกซื้อนี่ก็เช่นกัน หนูอยู่ได้ตลอดคืนโดยไม่หวาดผวา กลัวแต่พวกโจรผู้ร้ายอย่างเดียวค่ะ คนเรานี่ล่ะ ถ้าใจร้ายใจทมิฬทำร้ายเราได้ ก็น่ากลัวกว่าผีตั้งเยอะแน่ะ! คืนนั้นหนูเข้าเวรกับเพื่อนผู้หญิงสองคน ชื่อกิ๊กกับแอ๋ม เราไม่กลัวเพราะร้านเราแถวนั้นไม่เปลี่ยวเลย แม้ลูกค้าจะไม่เยอะเท่าตอนเย็นค่ำ แต่ก็จะมีเข้ามาซื้อของไม่ขาด แท็กซี่กับมอเตอร์ไซค์คือขาประจำ ซื้อของกิน บุหรี่ กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง ไม่เหงาหรอกค่ะ ก่อนตีห้าลูกค้าซาไป แปลกมาก…

เงียบกริบเลยล่ะ พวกหนูเลยมานั่งเช็กยอดขายกันอยู่ตรงเคาน์เตอร์ ขณะทำงานเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อยหกโมงเช้า ฟ้าเริ่มเปิด ในร้านทุกอย่างยังเงียบสงบ มองไปภายนอกมีผู้คนเดินมารอรถเมล์ เด็กๆ ไปโรงเรียน…เวลาผ่านไป รถราและผู้คนก็เริ่มหนาตาขึ้นทุกทีแล้ว น่าแปลกที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาในร้านเลยแม้แต่คนเดียว! ทันใดนั้นเอง หางตาหนูเห็นบางสิ่งบางอย่างเคลื่อน ไหวอยู่ด้านในสุด ตรงที่เป็นหน้าตู้น้ำอัดลม เบียร์ น้ำผลไม้น่ะค่ะ หนูหันไปมองตรงๆ ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งอายุราวสามสิบเศษ เดินช้าๆ ท่าทางคล้ายกำลังชั่งใจว่าจะซื้ออะไรดี หรืออาจจะหาอะไรบางอย่าง แต่สิ่งที่หนูสะกิดใจก็คือ เขาคนนี้เข้ามาเมื่อไหร่? เข้ามาได้อย่างไร ในเมื่อประตูเข้าออกมีแค่ประตูเดียว ที่อยู่ห่างจากพวกหนูแค่เอื้อมก็ว่าได้ อ้อ! ถ้าเขาเดินเข้ามา เสียงหน้าประตูมันจะดังนิ้งหน่อง พวกเราก็จะต้องร้องทักว่า “สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ” แต่นี่เราไม่ได้ยินอะไรเลย “เฮ้ย! เขามาตอนไหนวะ?”

กิ๊กชะเง้อคอยาวอยู่ข้างหนู แอ๋มตั้งปัญหาว่า “เขาหาอะไรอยู่น่ะ?” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปหาทันที “คุณหาอะไรอยู่ค่ะ เดี๋ยวหนูช่วย” แอ๋มถามเสียงอ่อนหวาน ก่อนจะเงียบหายราวปิดสวิตช์ เธอเดินถอยหลังช้าๆ มาหาเรา ขณะที่ตาเบิกโพลงจ้องร่างชายคนนั้นแทบไม่กะพริบ หนูเห็นมือแอ๋มสั่นระริก ปากยังอ้าค้าง และก้าวถอยหลังมาเรื่อยๆ จนถึงซอกหลังเคาน์เตอร์ที่หนูกับกิ๊กยืนมองอยู่อย่างสงสัย “อะไรวะแอ๋ม?” กิ๊กถาม หนูเองก็ใจหายวาบ คำว่าโจรผุดขึ้นมาทันใด!

“เขาไม่มีขา…” แอ๋มคราง “ตั้งแต่ใต้เข่าลงไปไม่มีอะไรเลย!” “บ้าซี่…ไม่มีขาแล้วจะเดินได้ไง? แกน่ะตาฝาดไปเอง” กิ๊กตวาดเบาๆ หนูคิดว่า กิ๊กเองก็สับสน งุนงงและตกใจกับคำบอกเล่าของแอ๋มอยู่ไม่น้อยล่ะค่ะ “ไม่เชื่อก็ไปดูเองซิ” แอ๋มทำท่าจะร้องไห้ หนูกับกิ๊กเกาะกัน ค่อยๆ ย่องไปที่ปลายเคาน์เตอร์…ผู้ชายคนนั้นหายไปทางด้านในสุด แล้วโผล่ออกมาให้เห็น คุณพระช่วย! ตั้งแต่ใต้เข่าลงไปไม่มีอะไรเลย เขาลอยไปลอยมาจริงๆ ค่ะ! กิ๊กผวาถอยหลัง แล้วเสียหลักล้มทับหนูกับแอ๋มลงไปกลิ้งขลุกๆ อยู่หลังเคาน์เตอร์ทั้งสามคน ลุกก็ลุกไม่ได้ แข้งขาเราพันกันไปหมด แต่แอ๋มที่โดนทับอยู่ล่างสุดพยายามดันเราแล้วลุกขึ้น ทำท่าเหมือนจะเหยียบเพื่อนเพื่อกระโจนออกไป แต่เราช่วยกันดึงแขนแอ๋มไว้ น่าประหลาดใจที่ไม่มีใครร้องกรี๊ดกร๊าดแม้แต่คนเดียว! “

อย่าวิ่ง ! อย่าวิ่ง… เฉยไว้ ใจเย็นๆ” หนูขยับปากบอกเพื่อนจนได้ เพราะจำมาจากผู้ใหญ่ที่ว่าถ้าเจอผีให้ตั้งสติดีๆ สูดลมหายใจยาวๆ ถ้าวิ่งละก็เราจะสติแตก เป็นบ้าไปเลย ผีหลอกน่ะไม่ตาย แต่ถ้าตายก็เพราะสติแตกจนช็อก หรือเผ่นแผล็วออกไปเป็นลมพัดเท่านั้น แอ๋มเข่าอ่อนนั่งแปะ เป็นอันว่าเราสามคนนั่งกอดกันกลมอยู่หลังเคาน์เตอร์ “เขายังอยู่ตรงนั้นมั้ย?” แอ๋มกระซิบเสียงสั่นพร่า หนูค่อยๆ โผล่หัวออกไปดูเห็นตรงนั้นว่างเปล่า แต่เขาจะเดินไปอยู่ตรงซอกไหนหนูก็ไม่รู้นะ จนตั้งสติได้ หนูจึงบอกเพื่อนว่า…

เขาไม่อยู่ เขาไปแล้ว! ประทับใจมากเลยค่ะ งานนี้! ต้องบอกว่า “จัดหนัก” จริงๆ เกิดมาเพิ่งเคยเจอะเจอ จนกระทั่งตกสาย ผู้จัดการมาถึง เรารีบรายงาน แล้วเปิดเทปกล้องวงจรปิดกันเผื่อจะถ่ายติดเป็นหลักฐานแต่ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใด ผู้จัดการบอกว่าในร้านไม่เคยมีใครตาย แต่ “เขา” ที่เราเห็นอาจจะเป็นวิญญาณที่ผ่านมา หรือเคยเข้ามาซื้อของบ่อยครั้ง…เขาอาจอยากได้น้ำสักขวดหรือเครื่องดื่มสักกระป๋อง ติดมือกลับไปโลกวิญญาณ หลังจากมาเที่ยวโลกมนุษย์ตลอดคืนก็ได้…ใครจะรู้ล่ะคะ?!

รายการบล็อกของฉัน