ค้นหา

ที่นี่มีผี..รวมเรื่องลึกลับสยองขวัญสั่นประสาทตาเหลือกตากลับ
บางทีก็น่ากลัวบางทีก็ไม่น่ากลัวรวมๆกันไป
ที่นี่เปิด รับทุกอย่างที่เกี่ยวกับผีๆวิญญาณ
ท่านใดชอบเรื่องผีหรือมีคลิปผีถ่ายติดวิญญาณ.. น่าสนใจ..
ติดต่อส่งตั้งกระทู้มาที่ ghost-in-manman ด้านข้างครับ
แนะนำข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเชิญได้ครับ
ดูเว็บ ghost-in-manman แล้วหาความรู้เพิ่มเติม..ไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่ครับ
สุดท้ายขอขอบคุณเพื่อนๆที่ให้ความสนใจและ ให้ข้อมูลเรื่องน่ากลัวๆเรื่องประสบการณ์ทางวิญญาณ มาทางเราจะนำมาลงให้อ่านกันในครั้งต่อไปนะครับ.....
อย่าลืมดูเว็บ ghost-in-manman

chat love manman1

chat love manman 2

chat love manman 3

chat love manman 4

chat love manman 5

chat love manman6

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ The Conjuring2 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ The Conjuring2 แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อยู่กับผี เรื่องจริง The Conjuring2


อยู่กับผี  เรื่องจริง The Conjuring2
โพสนี้ มาอ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง !?หรือไม่จริงก็แล้วแต่นะคร่า แต่บุคคลในบทความมีจริงทุกคนค

แม่หม้ายลูกสี่แจ้งเหตุเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นในบ้าน เมื่อตำรวจเดินทางมาถึงก็เห็นเก้าอี้ตัวใหญ่เคลื่อนย้ายตำแหน่งได้เองต่อหน้าต่อตาโดยไม่มีใครอยู่ใกล้เก้าอี้ หลังจากตรวจอย่างละเอียดก็ไม่พบเส้นเชือกหรือสิ่งใดที่จะทำให้เก้าอี้เลื่อนได้ ขณะเดียวกันก็ไม่พบร่องรอยการบุกรุก จึงทำได้แค่เพียงลงบันทึกประจำวัน

ค่ำวันที่ 31 สิงหาคม 1977 เพ็กกี้ ฮอดจ์สัน แม่ม่ายหย่าสามีกำลังจัดข้าวของในบ้านชั้นล่าง ขณะที่มาร์กาเร็ต ลูกสาวคนโตวัย 13 ขวบ หยอกล้อกับเจเน็ต ลูกสาวคนรองวัย 11 ขวบ อยู่ในห้องนอนชั้นบน โดยมีจอห์นนี่ น้องชายวัย 10 ขวบ และบิลลี่ น้องคนสุดท้องวัย 7 ขวบนอนอยู่อีกห้อง

ขณะที่มาร์กาเร็ตและเจเน็ตกำลังสนุกสนานอยู่นั้น จู่ๆลิ้นชักตู้ก็กระเด็นออกมาเหมือนถูกใครกระชาก ขณะเดียวกันเพ็กกี้ก็ได้ยินเสียงคนเดินลากเท้าอยู่ข้างบนและตามมาด้วยเสียงหวีดร้องของลูกสาว เธอรีบวิ่งขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

มาร์กาเร็ตและเจเน็ตเล่าให้แม่ฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแต่เพ็กกี้ไม่เชื่อ เธอก้มเก็บลิ้นชักไปใส่ที่ตู้ตามเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ลิ้นชักกระเด็นออกมาจากตู้ได้เองต่อหน้าต่อตาเพ็กกี้ เธอรีบคว้ามือลูกสาววิ่งหนีลงมาชั้นล่างด้วยความตกใจก่อนจะโทรศัพท์แจ้งเหตุให้ตำรวจได้ทราบ

สายตรวจหญิงคาโรลิน ฮีบส์ เดินทางมาสืบสวนที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 284 ถนนกรีน เมืองบริมส์ดาวน์ เขตเอนฟิลด์ ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน และก็ต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ต่อหน้าต่อตาอีกคน เก้าอี้ตัวใหญ่ลอยขึ้นจากพื้นราวครึ่งนิ้วก่อนจะเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปจากที่เดิมราว 3-4 ฟุตด้วยตัวมันเอง

เธอตรวจสอบที่เก้าอี้ไม่พบว่ามีเชือกหรือสิ่งอื่นใดผูกติดกับเก้าอี้ ตำรวจหญิงลองวางลูกแก้วบนพื้นเพื่อตรวจสอบว่าพื้นเอียงจนทำให้เก้าอี้เลื่อนเองหรือไม่ แต่ลูกแก้วก็นิ่งอยู่กับที่ แสดงว่าพื้นบ้านไม่เอียง แต่บ้านไม่มีร่องรอยงัดแงะ ไม่มีผู้บุกรุก สายตรวจหญิงจึงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการลงบันทึกประจำวันเท่านั้นสื่อสนใจ

สายตรวจหญิงคาโรลินแนะนำเพ็กกี้ให้ลองติดต่อหนังสือพิมพ์ เพราะถ้าไม่มีร่องรอยการก่ออาชญากรรมตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ขณะที่หนังสือพิมพ์สนใจเหตุการณ์ประหลาดๆแบบนี้และมีทีมสืบสวนของเขาเอง

หนังสือพิมพ์เดลี่ มิร์เรอร์ ส่ง 2 ผู้สื่อข่าว เกรแฮม มัวริซ และดักลาส เบนซ์ มาที่บ้านของเพ็กกี้ หลังจากนั่งสนทนากันนานกว่าชั่วโมงก็ไม่มีเหตุการณ์ผิดปรกติใดๆเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวจึงขอตัวลากลับ แต่ทันใดนั้นเองเพ็กกี้ก็กรีดร้องด้วยความตกใจ เพราะวัตถุหลายอย่างในห้องนั่งเล่นลอยว่อนปะทะกับผนังบ้าน

เกรแฮมรีบวิ่งไปที่รถเพื่อหยิบกล้องมาบันทึกภาพ ขณะที่กำลังจะบันทึกภาพนั้นก็มีวัตถุชิ้นหนึ่งลอยมากระแทกที่หัวคิ้ว แต่โชคร้ายที่ภาพที่เขาถ่ายได้นั้นมองไม่เห็นวัตถุที่ปลิวว่อนอยู่ทั่วห้อง อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็สร้างความสนใจให้กับสมาคมสืบสวนเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ

คนจับผี มัวริซ กรอสส์ และกาย เพลย์แฟร์ 2 สมาชิกสมาคมสืบสวนเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ เดินทางมายังบ้านเพ็กกี้ พวกเขาพบเหตุการณ์ประหลาดที่อธิบายไม่ได้หลายอย่าง เช่น เสียงเคาะผนังบ้าน เครื่องเรือนเคลื่อนที่ได้เอง และดูเหมือนจะเกิดถี่ขึ้นทุกวัน
เดือนตุลาคม 1977 มัวริซได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากห้องนอนของเด็กหญิง เขาจึงรีบวิ่งขึ้นไปดูก็เห็นแผงเหล็กเครื่องทำความร้อนน้ำหนัก 300 ปอนด์ ถูกกระชากออกมาจากผนังจนท่อเหล็กขาด 2 ท่อน มาร์กาเร็ตและเจเน็ตอยู่บนเตียงนอนของพวกเธอ อีกทั้งเด็กตัวเล็กๆ 2 คนไม่สามารถกระชากมันออกมาจากผนังได้

มัวริซและกายสังเกตว่าเหตุการณ์ประหลาดมักจะเกิดขึ้นรอบๆตัวเจเน็ตเสมอ ดังนั้น ถ้าหากเจเน็ตไม่ได้เป็นผู้สร้างเรื่องขึ้นมาเธอก็ต้องเป็นสื่อของพลังงานลี้ลับอะไรสักอย่าง วันที่ 26 พฤศจิกายน แพทย์ได้ให้ยานอนหลับแวเลี่ยมขนาด 10 มก. กับเจเน็ต จากนั้นให้เธอนอนพักผ่อน

เกรแฮม ช่างภาพหนังสือพิมพ์เดลี่ มิร์เรอร์ ติดตั้งกล้องถ่ายภาพนิ่งควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรลในห้องนอนเด็กหญิง เกรแฮมสามารถจับภาพตอนที่เจเน็ตถูกพลังงานลึกลับกระชากออกจากเตียงลอยขึ้นไปในอากาศก่อนจะตกลงที่ปลายเตียงของมาร์กาเร็ต
มาเร็วหายเร็ว

มัวริซสอบปากคำเจเน็ตเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เธอกลับตอบคำถามด้วยโทนเสียงทุ้มลึกในลำคอเหมือนเสียงผู้ชายสูงอายุ การสัมภาษณ์ครั้งนี้ถูกบันทึกเทป ปัจจุบันสามารถหาฟังได้ในยูทูบ โดยพิมพ์ค้นหาวิดีโอ Enfield Poltergeist Voice Recordings ซึ่งชัดเจนว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงผู้ชายสูงอายุ แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เด็กหญิง 11 ขวบจะทำเสียงแบบนี้ได้

แต่เพื่อความแน่ใจว่าจะไม่ถูกเจเน็ตแหกตา มัวริซให้เธออมน้ำเอาไว้แล้วเอาเทปปิดปาก ปรากฏว่าเจเน็ตยังคงให้สัมภาษณ์ได้ เธอบอกว่าชื่อบิล อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เมื่อหลายปีก่อน ต่อมาเสียชีวิตเพราะตกเลือดที่เก้าอี้ชั้นล่าง

มัวริซสืบหาจนพบกับเทอร์รีย์ วิลกินส์ บุตรชายของผู้อาศัยในบ้านหลังนี้ก่อนหน้าครอบครัวเพ็กกี้ เขายืนยันว่า บิล วิลกินส์ เป็นบิดาและเสียชีวิตเพราะตกเลือดบนเก้าอี้ในบ้านหลังนั้นจริง อย่างไรก็ตาม สมาคมสืบสวนเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเป็นองค์กรที่ค้นหาคำตอบของเหตุการณ์ประหลาดในเชิงวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ไสยศาสตร์ พวกเขาแนะนำให้ส่งตัวเจเน็ตไปตรวจสุขภาพจิตจิต เพราะเธออาจจะคิดและจินตนาการ
ไปจนคล้ายๆคนที่สกดจิตตนเอง.......
เข้าขั้นประสาทหลอนสติเสียก็เป็นได้

รายการบล็อกของฉัน