ค้นหา

ที่นี่มีผี..รวมเรื่องลึกลับสยองขวัญสั่นประสาทตาเหลือกตากลับ
บางทีก็น่ากลัวบางทีก็ไม่น่ากลัวรวมๆกันไป
ที่นี่เปิด รับทุกอย่างที่เกี่ยวกับผีๆวิญญาณ
ท่านใดชอบเรื่องผีหรือมีคลิปผีถ่ายติดวิญญาณ.. น่าสนใจ..
ติดต่อส่งตั้งกระทู้มาที่ ghost-in-manman ด้านข้างครับ
แนะนำข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเชิญได้ครับ
ดูเว็บ ghost-in-manman แล้วหาความรู้เพิ่มเติม..ไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่ครับ
สุดท้ายขอขอบคุณเพื่อนๆที่ให้ความสนใจและ ให้ข้อมูลเรื่องน่ากลัวๆเรื่องประสบการณ์ทางวิญญาณ มาทางเราจะนำมาลงให้อ่านกันในครั้งต่อไปนะครับ.....
อย่าลืมดูเว็บ ghost-in-manman

chat love manman1

chat love manman 2

chat love manman 3

chat love manman 4

chat love manman 5

chat love manman6

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อเมซอน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อเมซอน แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2563

ซันซาของขลังสุดสะพรึง จากชนเผ่าในอเมซอน

👹ซันซา ของขลังสุดสะพรึง!
จากชนเผ่าในอเมซอน ที่ทำมาจากศีรษะจริงของมนุษย์!
ซันซา (Tsantsa) เป็นของขลังที่มีไว้เพื่อสะกดดวงวิญญาณของชนเผ่าชูอาร์และคีวาโรในป่าอเมซอนของอเมริกาใต้ กล่าวกันว่าเวลาพวกเขาสามารถสังหารศัตรูได้ ก็จะตัดศีรษะศัตรูแล้วนำไปผ่านกระบวนการย่อขนาดให้มีขนาดเล็ก เท่ากับผลแอปเปิ้ลเท่านั้น

สาเหตุที่ทำเช่นนี้ เพราะชนเผ่าในป่าอเมซอนมีความเชื่อว่าหากสังหารศัตรูแล้ว วิญญาณของพวกเขาจะกลายเป็นวิญญาณอาฆาตพยาบาทและตามจองเวรผู้ลงมือสังหาร วิธีแก้คือต้องตัดศีรษะศัตรูแล้วนำมาทำเป็นซันซา 

จากนั้นก็ถลกหนังศีรษะแล้วเอากระโหลกออกมา นำหนังศีรษะไปต้มในน้ำสมุนไพร เสร็จแล้วก็นำไปตากแดดให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วก็ขูดพังผืดและไขมันทิ้งให้หมด ก่อนจัดทรงหนังศีรษะและเย็บให้มีลักษณะเป็นถุง แล้วยัดหินร้อนเข้าไปด้านในและเททรายร้อนตรงที่เหลือระหว่างช่องหิน จากนั้นก็นวดคลึงให้ได้รูปทรง จนศีรษะมีขนาดเล็กเหลือเพียง 1 ใน 4 จากขนาดปกติ
เพื่อความมั่นใจว่าวิญญาณของผู้ตายจะไม่ตามมาทำร้ายจำเป็นต้องเย็บปิดปากและปิดตา หรืออาจตอกหมุดไม้เข้าไปในปากด้วยก็ได้ เพียงเท่านี้ก็จะได้ซันซา ของขลังสุดสะพรึงของชนเผ่าในอเมซอน

Tsantsa
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันไม่มีการทำซันซาอีกแล้ว แต่มีผู้สนใจอยากได้ซันซาเป็นที่ระลึก จึงมีการตัดศีรษะลิงแล้วนำมาทำเป็นซันซาขายแทนศีรษะมนุษย์จริง

วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

ชนเผ่าอเมซอน ล่าหัวมนุษย์ กับ พิธีกรรมสะกดวิญญาณTsansha

ชนเผ่าอเมซอน ล่าหัวมนุษย์ กับ พิธีกรรมสะกดวิญญาณ ...
( Tsansha )ชนเผ่าอเมซอน ล่าหัวมนุษย์

Tsantsa คือ 1 ใน พิธีกรรมสะกดวิญญาณ ของชนเผ่า Shuar ในป่าอเมซอนที่ลึกลับ โดยศัตรูที่ถูกสังหาร จะถูกตัดศีรษะ และนำไปผ่านขบวนการอันลึกลับ เพื่อย่อศีรษะลงเหลือขนาดเพียง ผลแอ๊ปเปิ้ล เท่านั้น

ข้อมูลเฉพาะ ของ Tsantsa•ศีรษะที่ผ่านขบวนการ และพิธีกรรม จนเหลือขนาดเล็กจิ๋ว จะถูกเรียกว่า Tsantsa
•ในช่วงแรกที่ชาวยุโรป พบ Tsantsa ชาวยุโรปใช้ปืนสั้นเพื่อ แลกมันเพื่อนำกลับมาเป็น ของที่ระลึก
•ในปัจจุบัน ไม่มีการทำพิธีกรรมนี้แล้ว และ ศีรษะจิ๋วนี้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันราคากว่า 1 ล้านบาทต่อหัว
โฉมหน้าของชนเผ่า Shuar ในป่่าอเมซอน
กรรมวิธี ย่อหัวมนุษย์

•ตัดหัวของศัตรูที่ถูกสังหาร ออกจากร่าง
•ทำการถลกหนังศีรษะออกจากกระโหลก ต้องพยายามอย่างให้ผิวหน้าเสียหาย
•นำหนังศีรษะไปต้มในน้ำเป็นเวลา ครึ่งชั่งโมง
•นำหนังที่ต้มไปผึ่งให้แห้งด้วยแสงอาทิตย์
•ทำการพลิกด้านในของหนังศีรษะออกมา ทำการขูดพังผืด ไขมันทิ้ง
•พลิกหนังศีรษะกลับเหมือนเดิม จัดทรงให้ดีแล้วทำการเย็บ หนังศีรษะให้มีลักษณะเป็นถุง

•แล้วนำหินร้อนยัดใส่เข้าไปด้านในหนังศีรษะ
•ช่องว่างที่เหลือระหว่างหิน ให้ทำการเติมด้วยทรายร้อนเข้าไป ทางบริเวณลำคอ ริมฝีปาก รูจมูก หู และลูกตา จนเต็ม
•ทำการนวด คลึงไปเรื่อยๆให้ได้รูปทรง และ ลดขนาดลง
•ทำการเติมหินร้อน และทรายร้อนใหม่เป็นระยะ พร้อมทั้งนวด คลึง ไปเรื่อยๆประมาณ 6 วัน จนศีรษะหดเล็กลงเหลือขนาดเพียง 1/4 ของขนาดปกติ
•แต่พิธีกรรมยังไม่จบ เพื่อความมั่นใจว่าวิญญาณ ของผู้ตายจะไม่มีวันกลับมาทำร้ายคนเป็น ได้อีกจำเป็นต้อง เย็บปิดเปลือกตา ทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันวิญญาณมองเห็นผู้ที่สังหารตนอีก
•ต้องทำการตอกหมุดไม้ หรือเย็บริมฝีปาก เพื่อป้องกันวิญญาณสามารถซักถามหาตัวผู้สังหารตน หรือสาบแช่ง
•เป็นอันเสร็จพิธีกรรมสะสดวิญญาณ แบบ อเมซอน

Tsantsa ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Quito Amazonia Museum

ส่วนอันนี้จัดแสดงอยู่ที่ Mütter Museum
ข้อมูลอ้างอิง ชนเผ่าอเมซอน ล่าหัวมนุษย์ กับ พิธีกรรมสะกดวิญญาณ
•http://channel.nationalgeographic.com/series/expedition-week/4380/Overview#tab-Overview
•http://www.shrunkenheadcookbook.com/shrunken-heads-gallery.htm
•หมายเหตุ กรรมวิธีการทำของ 2 website นี้แตกต่างกัน ผมเลือกของ National Geographic มาแปลครับ

รายการบล็อกของฉัน