ค้นหา

ที่นี่มีผี..รวมเรื่องลึกลับสยองขวัญสั่นประสาทตาเหลือกตากลับ
บางทีก็น่ากลัวบางทีก็ไม่น่ากลัวรวมๆกันไป
ที่นี่เปิด รับทุกอย่างที่เกี่ยวกับผีๆวิญญาณ
ท่านใดชอบเรื่องผีหรือมีคลิปผีถ่ายติดวิญญาณ.. น่าสนใจ..
ติดต่อส่งตั้งกระทู้มาที่ ghost-in-manman ด้านข้างครับ
แนะนำข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเชิญได้ครับ
ดูเว็บ ghost-in-manman แล้วหาความรู้เพิ่มเติม..ไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่ครับ
สุดท้ายขอขอบคุณเพื่อนๆที่ให้ความสนใจและ ให้ข้อมูลเรื่องน่ากลัวๆเรื่องประสบการณ์ทางวิญญาณ มาทางเราจะนำมาลงให้อ่านกันในครั้งต่อไปนะครับ.....
อย่าลืมดูเว็บ ghost-in-manman

chat love manman1

chat love manman 2

chat love manman 3

chat love manman 4

chat love manman 5

chat love manman6

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วัฒนธรรม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วัฒนธรรม แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565

การใช้ชีวิตร่วมกับคนตาย


อันนา มาเรีย นิเยโต (ซ้าย) และเปาลา ปิเมนเทล (ขวา) ตื่นเต้นที่ยูเนสโกเล็งเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมชาวชินชอร์โร
การใช้ชีวิตร่วมกับคนตาย
การค้นพบมัมมี่หลายร้อยร่างในเมืองอาริกาและจุดอื่น ๆ ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ทำให้คนในท้องถิ่นได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับร่างผู้วายชนม์เหล่านี้ และบ่อยครั้งเป็นการอาศัยอยู่เหนือสุสานที่ใช้ฝังมัมมี่

ชาวบ้านเหล่านี้รุ่นแล้วรุ่นเล่าคุ้นเคยกับการพบเจอร่างมนุษย์โดยบังเอิญ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างการก่อสร้าง หรือแม้แต่การที่สุนัขของพวกเขาไปขุดคุ้ยเจอชิ้นส่วนของมัมมี่เข้า โดยที่พวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของศพมนุษย์ที่พบเจออยู่เป็นเวลาเนิ่นนาน

ยานินนา แคมโปส นักโบราณคดี กล่าวว่า "บางครั้งชาวบ้านจะเล่าให้เราฟังเรื่องที่ลูก ๆ ของพวกเขาเคยเอาหัวกะโหลกที่พบมาใช้เป็นลูกบอล หรือไม่ก็ถอดเสื้อผ้าออกจากร่างมัมมี่ แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าจะต้องแจ้งให้เราทราบเวลาที่พบเจออะไรบางอย่าง แล้วไม่เข้าไปยุ่งกับมัน"

คนท้องถิ่นอย่าง อันนา มาเรีย นิเยโต และเปาลา ปิเมนเทล ต่างรู้สึกตื่นเต้นที่องค์การยูเนสโกเล็งเห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมชาวชินชอร์โร


สตรีทั้งสองเป็นผู้นำกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับแหล่งโบราณคดีที่พบมัมมี่ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยตาราปากา ซึ่งอยู่ใกล้เคียง เพื่อช่วยให้คนในชุมชนได้เข้าใจถึงความสำคัญของวัฒนธรรมชินชอร์โร และทำให้แน่ใจว่าแหล่งโบราณคดีเหล่านี้จะได้รับการดูแล

พวกเขามีแผนการสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นในชุมชน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมร่างมัมมี่นอนเรียงรายอยู่เบื้องล่างกระจกที่เสริมความแข็งแกร่งอย่างใกล้ชิด และจะมีการฝึกฝนชาวบ้านให้เป็นมัคคุเทศก์คอยให้ความรู้เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมของพวกเขาแก่ผู้มาเยือน

ปัจจุบันมีการค้นพบมัมมี่ชินชอร์โรกว่า 300 ร่าง และในจำนวนนี้เพียงส่วนน้อยได้ถูกนำมาจัดแสดงให้ประชาชนทั่วไปได้ชม โดยส่วนใหญ่ได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีซานมิเกล เด อาซาปา ของมหาวิทยาลัยตาราปากา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองอาริกาโดยการเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 30 นาที

แม้จะมีแผนการสร้างพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่กว่าเพื่อให้เก็บรักษามัมมี่ได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีความต้องการเงินสนับสนุนเพิ่ม เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถเก็บรักษามัมมี่ไว้ได้อย่างถูกต้องและรักษาสภาพไว้ให้ได้มากที่สุด

ศาสตราจารย์ อาร์เรียซา และยานินนา แคมโปส นักโบราณคดี ต่างเชื่อว่าเมืองอาริกาและบริเวณเนินเขาโดยรอบยังคงมีขุมทรัพย์ทางโบราณคดีอยู่อีกมากที่ยังไม่ถูกค้นพบ แต่ก็จำเป็นต้องได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับใช้ในการสำรวจและขุดค้น

เจอร์รารโด เอสปินโดลา โรยาส นายกเทศมนตรีเมืองอาริกา หวังว่าการที่มัมมี่ของเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และดึงดูดเม็ดเงินเข้ามามากขึ้น

นายกเทศมนตรีเมืองอาริกาอยากให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวชม "ขุมทรัพย์ทางโบราณคดี" ในเมือง

อย่างไรก็ตาม เขาตระหนักดีว่า การพัฒนาจะต้องทำอย่างถูกทาง โดยร่วมมือกับชาวบ้าน เพื่อให้ประโยชน์ตกอยู่กับคนในชุมชน และคุ้มครองแหล่งโบราณคดีในพื้นที่

เขาอธิบายเอกลักษณ์เฉพาะของแหล่งโบราณคดีที่นี่ว่าแตกต่างจากในหลายที่ เช่น กรุงโรมซึ่งมักตั้งอยู่ในเขตที่เป็นอนุสรณ์สถาน แต่สำหรับเมืองอาริกา ชาวบ้านต่างอาศัยและใช้ชีวิตอยู่บนหลุมศพมัมมี่ "เราจึงจำเป็นต้องคุ้มครองมัมมี่เหล่านี้"

นายเอสปินโดลา บอกว่า ปัจจุบันมีกฎหมายผังเมือง และมีนักโบราณคดีไปสำรวจพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อให้แน่ใจว่าขุมทรัพย์ทางโบราณคดีจะไม่ถูกรบกวนจนได้รับความเสียหาย

ขณะที่ อันนา มาเรีย นิเยโต ผู้นำกลุ่มชาวบ้านก็หวังว่าการที่มัมมี่ชินชอร์โรกลายเป็นที่รู้จักในระดับโลกจะส่งผลดีต่อคนในชุมชน

"ที่นี่เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ผู้คนเป็นมิตร พวกเราอยากให้นักท่องเที่ยวและนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกมาเยือน เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอันน่าทึ่งของชาวชินชอร์โร ซึ่งพวกเราได้อยู่ร่วมกันมาทั้งชีวิต"


รายการบล็อกของฉัน