ผีในทัศนะของอิสลาม
ภาพโดย manman |
การสะกดจิตตนเองแล้วเสนอข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในส่วนลึกของสมอง (เป็นการอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์)การที่ญินเข้าสิงจริงๆ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่บ่อยเท่าข้อแรกญิน เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่มีระบุในอัลกุรอาน ซึ่งมารร้ายอิบลีส มาจากพวกนี้
สิ่งมีชีวิต 4 ประเภท
ตามหลักการที่ระบุในอัลกุรอาน อัลลอหฺทรงสร้างสรรพสิ่งสุดจะครณาได้
ทว่าที่เห็นว่ามีชีวิตนั้นมีอยู่สี่อย่างคือมีปัญญา มีตัณหา มีตัวตน(เป็นเลือดเนื้อและกระดูก) นั่นคือมนุษย์ มนุษย์นับถือศาสนาตามที่ตนคิดว่าถูกต้อง ขวนขวายหาทางรอดในชีวิตประจำวันเรื่อยไป จนกว่าจะสิ้นชีพ ที่ประเสริฐที่สุดคือมนุษย์พยายามใช้ปัญญาประกอบความดี แต่เมื่อใดยึดตัณหาเป็นใหญ่ ประกอบความชั่ว ฝ่าฝืนกฏระเบียบ ก็ไม่จะผิดกับเดรฉาน เนื่องจากมนุษย์มีเลือดเนื้อที่มาจากดิน เช่นเดียวกับมนุษย์คนแรกคือ อาดัม จึงผูกพันอยู่กับดินไม่จบสิ้น เสพสุขกับอาหารที่งอกเงยมาจากดิน รักและครอบครองผืนแผ่นดิน สะสมธาติและสารที่มาจากดิน เช่นทองคำและเพชรพลอย เมื่อสิ้นชีพร่างกายของมนุษย์ก็กลายเป็นดินอีกครั้ง และมนุษย์ก็จะผูกพันกับ กาละ และ เทศะ ไม่อาจดิ้นรนให้พ้นไปได้มีปัญญา มีตัณหา ไม่มีตัวตนที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า นั่นคือญิน ญินที่ถูกสร้างมาจากเพลิงนั้นก็เหมือนกับมนุษย์ คือจะอาศัยอยู่ในโลกนี้ ทว่ามีตัวตนที่เราไม่อาจจะเห็นด้วยตาธรรมดา มีศาสนาและความเชื่อถือแตกต่างกันไป
ในอัลกุรอานได้ระบุว่า ญินพวกหนึ่งได้เดินทางมาหาท่านนบีมุฮัมมัดและเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม ทั้งมนุษย์และญินต่างก็หาคำตอบว่า หลังจากดับไปจากโลกนี้แล้ว พวกตนจะไปไหน?
มีปัญญา ไม่มีตัณหา ไม่มีตัวตน นั่นคือมลาอิกะหฺ มะลาอิกะห์นั้นเมื่อไม่มีตัณหาก็จะขาดความประสงค์ จึงมีหน้าที่ดูแลระบบฟากฟ้าและโลกตามพระบัญชาของอัลลอหฺโดยไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อถูกสร้างมาจากรัศมี การเคลื่อนไหวก็คงเป็นเช่นแสง เข้าออกและเปลี่ยนที่โดยไม่มีพันธะ หน้าที่ของพวกเขาก็คือการเป็นทาสที่ซื่อสัตย์ และไร้กังวลต่อการสอบสวนในวันสุดท้่ายไม่มีปัญญา มีตัณหา มีตัวตน นั่นคือสัตว์ สัตว์เดรัจฉานเป็นพวกที่ต่ำสุด ทว่าเป็นพวกที่โชคดีกว่ามนุษย์และญินส่วนมาก เพราะไม่ถูกลงโทษวันปรโลก
อิบลีสมาจากญิน
อิบลีสเป็นญินตนหนึ่งที่บำเพ็ญคุณงามความดี จนสามารถคบค้าสมาคมกับมะลาอิกะหฺได้ ทั้งยังมีฐานันดรสูงส่งจนสามารถเข้าออกสวรรค์เหมือนเหล่ามะลาอิกะหฺ ต่อมาอิบลีสได้แพ้ต่อตัณหาของตนและขัดขืนพระบัญชา ถูกไล่ออกจากสวนอันอมตะ มันได้ขอพระพรจากอัลลอหฺให้มีชีวิตที่อมตะจนกว่าฟ้าดินจะสลาย อัลลอหฺทรงประทานตามที่มันขอ ทว่าในวันปรโลกนั้นมันจะตกอยู่ในอเวจีนิรันดร์
อิบลิสระดมหาพรรคพวกที่มาจากพวกเดียวกัน เพื่อหลอกลวงมนุษย์ด้วยมายาและอุบายนานัปการ ให้ตกลงไปในอเวจีพร้อมกับตน นั่นก็คือการพยายามหันเหมนุษย์ออกจากการบูชาอัลลอหฺสู่การบูชาสิ่งอื่นใด นอกเหนือไปจากพระองค์
อุบายที่ได้ผลมากพอ เห็นจะเป็นการแสดงปรากฏการณ์นอกเหนือธรรมชาติต่าง ๆ การหลอกหลอนให้มนุษย์กลัว เมื่อกลัวแล้วก็หาที่พึ่งให้ ในรูปของเจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าเขา เจ้่าป่า ให้มนุษย์กราบไหว้บูชา อาจจะปรากฏตนให้มนุษย์เห็นบางครั้งบางคราว หรือสอนอวิชชาคือไสยศาสตร์ให้มนุษย์ได้นำไปใช้ การเพิ่มสรรพคุณการหลอกหลอน ด้วยการเข้าสิงเข้าทรง การไม่ยอมออกจากร่างที่พวกตนเข้าสิงจนกว่า พวกเดียวกับมนุษย์ที่ได้เป็นพันธมิตรกับพวกตนจะมาทำพิธีขับไล่ เมื่อนั้นพวกตนก็จะทำเสียงร้องโหยหวน ประหนึ่งว่าเจ็บปวดเดือดร้อนกับมนตร์หรือยันตร์ที่มดแมลงไม่เคยรู้สึกความอุ่นของมันเลย
เมื่อมนุษย์เห็นแล้วก็อุปาทานสำคัญว่า ที่ตนเห็นนั้นเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของหมอผีชีเปลือย ทว่าความจริงแล้ว มันก็แค่กลเม็ดของการขายยาบริษัทญิน คือญินจะใส่ยาพิษให้มนุษย์เจ็บไข้ แล้วส่งคนขายยาของพวกตน คือหมอผี มารักษา มนุษย์ก็จะได้บูชาทั้งหมอผีและพวกตน หมอผีเองก็ต้องบูชาพวกตนเช่นกัน มิฉะนั้นจะไม่มีสินค้าส่งมาให้
การให้ความรู้เกียวกับ ญิน ของผู้ที่เคยศึกษา มา นำมาบอกเล่ากัน ให้อ่าน กัน พอประดับ ความรู้
ในเรื่องราวของ ญิน หรือ ผี ที่เรากำลังพูดถึง
"ญิน" ซึ่งถูกสร้างมาจากไฟ มันอาศัยร่วมอยู่กับมนุษย์บนโลกนี้และพวกญินก็เหมือนกับมนุษย์ที่มีทั้งดีและเลว ญินเป็นสิ่งหนึ่งในบรรดา "สิ่งเร้นลับ" (พวกมุสลิมเรียกอัล-เฆบ) ที่มุสลิมต้องเชื่อ เพราะกุรอานกล่าวไว้ การปฏิเสธเรื่องญินก็เท่ากับปฏิเสธกุรอาน อัลลอฮฺสร้างญิน พระองค์ทรงรู้ว่าจะป้องกันและขับไล่มันอย่างไร จึงได้บอกไว้ในกุรอาน วิธีคือ การอ่านบทอายะฮฺกุรซีย์ในเวลาไหนสักอย่างคุณไปต่อยอดเอาเองนะผมจำไม่ได้ล่ะถ้าจากหนังสือตรงๆเพื่อนผมเคยส่งให้อ่านตามนี้ ญินเป็นเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ก่อนที่มนุษย์คนแรกคืออาดัมจะถูกสร้างมา
เรื่องราวที่กุรอานเล่าถึงการสร้างมนุษย์คนแรกทำให้เราทราบว่าในตอนที่ทรงสร้างอาดัมนั้น พวกญินได้มีอยู่ก่อนแล้วและมันอยู่ที่นั่นด้วยเมื่อตอนที่อัลลอฮฺทรงสร้างอาดัม อิบลีสเป็นหัวหน้าของพวกญินที่ฝ่าฝืนพระเจ้า (หรือที่เรียกว่าชัยฏอน) และมันไม่ยอมทำตามคำสั่งของอัลลอฮฺผู้ทรงบัญชามันให้ก้มกราบต่ออาดัมเพราะมันถือว่ามันถูกสร้างมาจากสิ่งที่เหนือกว่าอาดัม (ดูกุรอาน 7:11-17) ด้วยเหตุนี้มันจึงถูกเนรเทศออกจากอาณาจักรของพระองค์มายังโลกนี้ แต่ก่อนที่มันจะถูกเนรเทศมา มันได้ขอว่าจะหลอกลวงลูกหลานของอาดัม(หมายถึงมนุษย์ทั้งหมด)ไปจนถึงวันสิ้นโลกซึ่งอัลลอฮฺก็ทรงอนุมัติโดยพระองค์ได้กำหนดเงื่อนไขว่า “มันไม่มีอำนาจที่จะบังคับมนุษย์ให้ทำผิด” หมายถึงว่ามันจะทำหน้าที่ได้แต่แค่หลอกลวงหรือล่อลวงให้มนุษย์ทำผิดหรือหันห่างจากพระเจ้าเท่านั้น ส่วนมนุษย์จะเชื่อมันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมนุษย์เองและที่สำคัญก็คือมันไม่สามารถจะหลอกลวงบ่าวผู้ศรัทธาในพระเจ้าได้ (กุรอาน 38:82-83) ดังนั้น ในทุกวันนี้ พวกลูกน้องของอิบลีสจึงทำตามที่มันได้ขอต่อพระเจ้าไว้ในทุกวิถีทางที่จะทำให้มนุษย์หลงออกไปจากแนวทางของพระองค์ มนุษย์ถูกสร้างมาจากดิน ส่วนญินถูกสร้างมาจากไฟ (กุรอาน 15:27)ญินคงคล้ายๆลูซิเฟอร์ของคริสต์แหละผมว่า
มลาอิก๊ะฮฺและญินสามารถปรากฏกายในรูปแบบและรูปร่างต่างๆได้ในโลกของเรา ในโลกนี้ เราคงสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่มองเห็นไปสู่สิ่งที่มองไม่เห็นกันบ้างแล้ว เช่น น้ำระเหยกลายเป็นไอและหายไปในบรรยากาศ ของแข็งกลายเป็นของเหลวหรือก๊าซและวัตถุกลายเป็นพลังงาน (เช่นการแตกตัวของนิวเคลียร์) เป็นต้น ในทำนองเดียวกัน เราก็สามารถเห็นการเคลื่อนไหวจากสิ่งที่มองไม่เห็นมาเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ เช่น ก๊าซกลายเป็นของเหลว น้ำระเหยกลายเป็นฝน (เช่นเดียวกับหิมะหรือลูกเห็บ)และพลังงานกลายเป็นสสาร เป็นต้น เช่นเดียวกัน ความคิดและความตั้งใจที่จับต้องมองเห็นไม่ได้ในจิตใจของเราก็สามารถปรากฏเป็นรูปธรรมได้ในรูปของจดหมาย บทความและหนังสือ โดยการเปรียบเทียบเช่นนี้ สิ่งที่เรามองไม่เห็นอย่างเช่นมลาอิก๊ะฮฺ ญินและอื่นๆที่มองไม่เห็นก็สามารถปรากฏกายให้มองเห็นได้เช่นกันเราได้อ่านพบในคัมภีร์กุรอาน 19:17 ว่าวิญญาณที่อัลลอฮฺได้ส่งมายังนางมัรยัม(แม่ของนบีอีซาหรือพระเยซู) ซึ่งนักวิชาการเรียกว่ามลาอิก๊ะฮฺญิบรีลนั้นได้ปรากฏกายต่อหน้าเธอในรูปของมนุษย์คนหนึ่ง เมื่อญิบรีลได้มายังนบีมุฮัมมัด บางครั้งก็มาปรากฏกายในรูปของชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าดิฮฺยะฮฺ ตัวอย่างเช่นหลังจากสิ้นสุดสงครามสนามเพลาะ ญิบรีลได้มาหาท่านนบีและบอกว่า ?ท่านรอซูลุลลอฮฺ ท่านถอดเสื้อเกราะของท่านแล้ว แต่เราบรรดามลาอิก๊ะฮฺยังไม่ได้ถอด อัลลอฮฺได้สั่งท่านให้มุ่งหน้าต่อไปยังพวกบนูกุร็อยเซาะฮฺ? (บันทึกในฮะดีษของบุคอรีและมุสลิม)
ครั้งหนึ่ง ญิบรีลได้ปรากฏกายในรูปของชายคนหนึ่งที่สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวและได้ถามท่านนบีหลายคำถาม เช่น ความศรัทธาคืออะไร อิสลามคืออะไร และคุณธรรมคืออะไร วันตัดสินจะเกิดขึ้นเมื่อใด ทั้งนี้เพื่อที่จะสั่งสอนบรรดาสาวกของท่านเช่นเดียวกับมลาอิก๊ะฮฺและญิน ชัยฏอน(ซึ่งอยู่ในหมู่ญิน)ก็สามารถปรากฏกายในรูปแบบต่างๆได้เช่นกัน มีคำบอกเล่าว่าก่อนสงครามบะดัรฺ ชัยฏอนได้มาปรากฏต่อหน้าผู้นำชาวกุเรชในรูปของชายแก่คนหนึ่งจากแคว้นนัจญ์เพื่อให้คำแนะนำคนพวกนี้
อีกกรณีหนึ่งก็คือสาวกของท่านนบีที่ดูแลกองคลังซะกาตได้จับชัยฏอนที่จำแลงร่างมาและพยายามที่จะขโมยของบางอย่าง ชัยฏอนได้ขอให้สาวกปล่อยตัวมันและก็ได้รับการปล่อยตัวถึงสองครั้ง แต่เมื่อถูกจับเป็นครั้งที่สาม สาวกได้พยายามที่จะนำมันไปหาท่านนบี แต่ชัยฏอนก็ขอร้องสาวกว่า ?ปล่อยฉันไปเถิดแล้วฉันจะบอกท่านถึงวิธีการที่ท่านจะสามารถเอาตัวรอดจากฉันได้? สาวกจึงได้ถามว่าสิ่งนั้นคืออะไร ชัยฏอนจึงได้ตอบว่า ?อายะฮฺกุรฺซีย์? (กุรอาน 2:255) เมื่อได้ทราบเช่นนั้น ท่านนบีก็ได้กล่าวว่า ?มันเป็นพวกโกหกแต่ในตอนนั้น มันพูดความจริง? (บุคอรี)
คัมภีร์กุรอานได้เล่าว่าญินกลุ่มหนึ่งได้ฟังท่านนบีอ่านคัมภีร์กุรอาน เมื่อพวกมันกลับไปยังพวกของมัน พวกมันก็กล่าวว่า ?พวกเราทั้งหลาย เราได้ฟังคัมภีร์ที่ถูกประทานมาหลังจากมูซา เป็นการยืนยันสิ่งที่ได้มีมาก่อนนั้นและนำไปสู่สัจธรรมและแนวทางที่เที่ยงตรง? (กุรอาน 46:30)คัมภีร์กุรอานยังได้กล่าวต่อไปว่าพวกญินได้คิดถึงสิ่งที่พวกมันได้ยินมา บางฮะดีษได้บอกเราว่าท่านนบีได้อ่านข้อความกุรอานตอนหนึ่งเพื่อเผยแพร่ในหมู่พวกญิน