มัมมี่ที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีคือมัมมี่อียิปต์โบราณ แต่ในรูปเป็นมัมมี่ที่เกิดจากสภาพอากาศอันร้อนและแห้งแล้ง เป็นมัมมี่ที่อยู่ในยุคสมัยก่อนที่มีการปกครองโดยฟาโรห์
ซึ่งในสมัยนั้นชาวอียิปต์ยังไม่รู้จักวิธีการทำมัมมี่ค่ะ สุสานของเขาเป็นแบบเรียบง่ายค่ะ โดยขุดหลุมให้ลึกลงไป แล้วนำเอาศพมาวาง นำเอาสมบัติของผู้ตายเช่นลูกปัด โถใส่อาหาร วางไว้รอบๆร่างของผู้ตาย ศพนั้นไม่ได้มีการนำเสื้อผ้ามาใส่ให้ และไม่มีการนำทรายมากลบร่างผู้ตายด้วย
ซึ่งในสมัยนั้นชาวอียิปต์ยังไม่รู้จักวิธีการทำมัมมี่ค่ะ สุสานของเขาเป็นแบบเรียบง่ายค่ะ โดยขุดหลุมให้ลึกลงไป แล้วนำเอาศพมาวาง นำเอาสมบัติของผู้ตายเช่นลูกปัด โถใส่อาหาร วางไว้รอบๆร่างของผู้ตาย ศพนั้นไม่ได้มีการนำเสื้อผ้ามาใส่ให้ และไม่มีการนำทรายมากลบร่างผู้ตายด้วย
ต่อมาเป็นยุคที่อียิปต์รู้จักวิธีการทำมัมมี่แล้วค่ะ แต่ขอไม่บรรยาย ถึงวิธีใน การทำมัมมี่เพราะในเว็บนี้ได้มีผู้เขียนไว้แล้วแต่จำ ไม่ได้ว่าอยู่ในกระทู้ไหนและท่านใดเป็นเป็นผู้เขียน(พิมพ์) (ในรูปคือมัมมี่ของเซติที่1พระองค์เก่งกาจทางด้านการรบเป็นอย่างมากและ พระองค์ก็ยังส่งเสริมและให้มีการพัฒนาทางด้านศิลปะ จนถือว่า เป็นยุคที่ศิลปะมีความงดงามสูงสุดอีกยุคหนึ่งด้วย)
มัมมี่ฟาโรห์เซติที่2
มัมมี่ของ(TUTMOSIS ที่1)ถ้าใช่นะค่ะเพราะยังเป็นมัมมี่ที่นักโบราณคดีถกเถียงกันอยู่เนื่อง จากพระศพมือไปวางอยู่ในท่าของสามัญชน(แขนสองข้างแนบลำตัว)และผลของการเอ็กซเรย์มัมมี่นี้ก็ตายตอนอายุ 20 ปี ซึ่งไม่ตรงกับประวัติการรบที่โชกโชนของพระองค์
TUTMOSIS ที่ 3 พระองค์เชี่ยวชาญทางด้านการรบเป็นอย่างมากจนได้รับฉายาว่า "นโปเลียนแห่งอียิปต์"เป็นมัมมี่รายแรกที่ได้ปรากฎโฉมต่อหน้าสาธารณะชน
TUTMOSIS ที่ 4 คู่แก่งแย่งบัลลังค์ของฮัทเซพซุท
รามเสสที่ 1รามเสสที่2 ถือว่าเป็นฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอียิปต์
รามเสสที่ 3 เป็นมัมมี่ฟาโรห์พระองค์แรกที่มีการทำตาปลอม และเปลี่ยนท่านอนโดยเอามือสองข้างวางไขว้ไว้ที่หน้าอกและแบมือออก ถือเป็นฟาโรห์ผู้ทรงอำนาจของอียิปต์องค์สุดท้าย
รามเสสที่ 4TIYIเสด็จย่าของฟาโรห์ตุตันคามุน
ฟาโรห์ตุตันคามุนฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่ 17 ฟาโรห์เซเคเนนเร สิ้นพระชนม์จากการออกรบ
อเมนโฮเทปที่ 2 เป็นฟาโรห์ที่โชคดีเพียงพระองค์ที่ไม่ต้องคอยถูกย้ายพระศพหนีจากพวกโจรขโมยสุสาน
TUTMOSISที่2 เป็นหนึ่งในกษัตริย์นักรบผู้เก่งกล้าของอียิปต์แต่ถูกกลบรัศมีจากราชินีของพระองค์เองคือราชินีฮัทเซพซุท
มัมมี่ฟาโรห์รามเสสที่ 6 พระศพถูกขวานจามเสียหายด้วยน้ำมือโจรปล้นสุสานพิเนดเจมที่1
มัมมี่ฟาโรห์เซติที่2
มัมมี่ของ(TUTMOSIS ที่1)ถ้าใช่นะค่ะเพราะยังเป็นมัมมี่ที่นักโบราณคดีถกเถียงกันอยู่เนื่อง จากพระศพมือไปวางอยู่ในท่าของสามัญชน(แขนสองข้างแนบลำตัว)และผลของการเอ็กซเรย์มัมมี่นี้ก็ตายตอนอายุ 20 ปี ซึ่งไม่ตรงกับประวัติการรบที่โชกโชนของพระองค์
TUTMOSIS ที่ 3 พระองค์เชี่ยวชาญทางด้านการรบเป็นอย่างมากจนได้รับฉายาว่า "นโปเลียนแห่งอียิปต์"เป็นมัมมี่รายแรกที่ได้ปรากฎโฉมต่อหน้าสาธารณะชน
TUTMOSIS ที่ 4 คู่แก่งแย่งบัลลังค์ของฮัทเซพซุท
รามเสสที่ 1รามเสสที่2 ถือว่าเป็นฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอียิปต์
รามเสสที่ 3 เป็นมัมมี่ฟาโรห์พระองค์แรกที่มีการทำตาปลอม และเปลี่ยนท่านอนโดยเอามือสองข้างวางไขว้ไว้ที่หน้าอกและแบมือออก ถือเป็นฟาโรห์ผู้ทรงอำนาจของอียิปต์องค์สุดท้าย
รามเสสที่ 4TIYIเสด็จย่าของฟาโรห์ตุตันคามุน
ฟาโรห์ตุตันคามุนฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่ 17 ฟาโรห์เซเคเนนเร สิ้นพระชนม์จากการออกรบ
อเมนโฮเทปที่ 2 เป็นฟาโรห์ที่โชคดีเพียงพระองค์ที่ไม่ต้องคอยถูกย้ายพระศพหนีจากพวกโจรขโมยสุสาน
TUTMOSISที่2 เป็นหนึ่งในกษัตริย์นักรบผู้เก่งกล้าของอียิปต์แต่ถูกกลบรัศมีจากราชินีของพระองค์เองคือราชินีฮัทเซพซุท
มัมมี่ฟาโรห์รามเสสที่ 6 พระศพถูกขวานจามเสียหายด้วยน้ำมือโจรปล้นสุสานพิเนดเจมที่1
และเป็นฟาโรห์พระองค์แรกที่มีรอยเย็บแผลที่เรียบร้อย แผลถูกปิดสนิทค่ะ ตอนมีชีวิตพระองค์ป่วยเป็นโรคโปลิโอและทรงทุกข์ทรมานด้วยโรคนี้จนวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ