จากกรณีพลทหารยุทธกินันท์อายุ22ปีที่ถูกทำร้ายเสียชีวิต
ในเรือนจำทหารซึ่งญาติติดใจในคดียังไม่เผาเก็บศพไว้ในโลงที่วัดกัลปนาราม(วัดควนร่อน)ม.4ต.ทุ่งหลวงอ.เวียงสระจ.สุราษฎร์ธานีก่อนเข้าฝันแม่ว่าบุหรี่หมดพอเปิดศพดูปรากฏว่ากลายเป็นหินไม่เน่าไม่เปื่อยสร้างความฮือฮาตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ค้นหา
Custom Search
ล่าสุดรศ.วีรชัยพุทธวงศ์หรืออ.อ๊อด อาจารย์และนักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์มหาวิทยาลัเกษตรศาสตร์ได้โพสต์ผ่าน
เฟซบุ๊กWeerachaiPhutdhawong
ถึงเรื่องดังกล่าวระบุว่า
“ไม่แปลกครับจะเห็นว่าจากภาพของศพที่อยู่ในโรงปูนนั้นมีการเน่าเปื่อยอยู่นะครับแต่เป็นการเน่าเปื่อยที่ไม่สมบูรณ์ด้วยปัจจัยหลายอย่างเมื่อคนตายสรีระจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติโดยลำดับหลังสุดก็จะเป็นการเน่าเปื่อย
โดยตอนเริ่มต้นนั้นศพจะมีรอยช้ำ
มีสภาพแข็งทื่อและอุณหภูมิในศพลดลงส่วนลำดับสุดท้ายคือการย่อยสลายซึ่งเป็นการทำงานของของจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่อยู่ในศพและอยู่ข้างนอกศพนั้น
มีปัจจัยการทำงานหลายอย่างเช่นสภาพอุณหภูมิที่เหมาะสมอากาศที่ถ่ายเทหรือต้องเป็นระบบเปิดจะเห็นได้ว่าสรีระในข่าวนั้นอยู่ในโรงปูนซึ่งปิดทับแน่นหนาอากาศภายนอกเข้าไม่ได้และก๊าซที่เกิดจากกระบวนการย่อยสลาย(คาร์บอนไดออกไซด์ไฮโดรเจนซัลไฟด์ไนโตรเจน)ได้ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงเริ่มต้นของการย่อยสลายมาแทนที่อากาศในโลงปูนสภาวะที่ไม่เหมาะสมนี้จะหยุดยั้งการทำงานของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่างๆทำให้การทำงานของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ทำงานได้ไม่เต็มที่กระบวน
การเน่าสลายก็ไม่สมบูรณ์
ความชื้นที่ออกจากร่างกายได้บางส่วนก็ทำให้สภาพศพแห้งและเริ่มแข็งทื่อๆเห็นเส้นผมหรือหนวดที่โผล่ขึ้นมาจากสรีระมีการหดตัว
ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้เห็นได้ทั่วไปในศพหรือสรีระที่เก็บในภาชนะปิดยกตัวอย่างเช่นสรีระของเกจิอาจารย์ชื่อดังที่อยู่ในโลงแก้วก็จะมีสภาพอย่างนี้เช่นกัน”