ย้อนกลับไปในสมัยวิคตอเรีย ยุคสมัยที่ความเจริญต่างๆ เริ่มเข้ามาในหมู่ชาวยุโรป มีการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ มากมาย เช่น กล้องถ่ายรูป จนได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงและชนชั้นกลางที่ค่อนข้างจะมีเงิน
ความนิยมในเรื่องการถ่ายรูปนั้นไม่ใช่นิยมกันแค่ถ่ายตอนที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น พวกเขายังนิยมถ่ายภาพ “ศพ” อีกด้วย โดยการนำร่างที่เพิ่งตายมาจัดท่าทางเหมือนกับว่ายังมีชีวิตเพื่อเก็บเป็นอนุสรณ์เอาไว้
การถ่ายภาพแบบดังกล่าวนั้น ไม่เพียงแต่จะถ่ายเฉพาะคนตายเท่านั้น ยังมีการนำสมาชิกครอบครัวมาร่วมเฟรมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่วิธีนี้ก็สามารถทำได้เพียงแค่กลุ่มคนที่พอมีเงินเท่านั้น เพราะการถ่ายในลักษณะนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าถ่ายแบบปกติ แน่นอนว่าครอบครัวไหนที่มีฐานะยากจนย่อมเข้าไม่ถึงอย่างแน่นอน
จึงทำให้มีศิลปินชาวอังกฤษนามว่า John Callcott Horsley ได้คิดว่าคนยากจนก็สมควรที่จะมีโอกาสได้เก็บภาพใบหน้าของผู้ตายไว้เป็นครั้งสุดท้ายด้วยเช่นกัน
John จะออกตระเวนไปตามบ้านที่มีคนเพิ่งตายในเมืองอย่างรวดเร็ว เพื่อทำการสเกตช์ภาพ เหตุที่ต้องรีบนั้นก็เป็นเพราะว่าคนที่เพิ่งตายนั้นกล้ามเนื้อบนใบหน้ายังไม่แข็งเหมือนคนตายแต่จะเหมือนกับคนที่กำลังนอนหลับ John ทำแบบนี้ร่วม 2 ปี
จนมีศิลปินต่างเมืองได้ยินข่าวและเริ่มเลียนแบบกันเป็นล่ำเป็นสัน มีทั้งวาดแบบการกุศลและวาดแบบเก็บเงิน ซึ่งราคาของภาพนั้นก็เป็นราคาที่คนจนสามารถเอื้อมถึง
ในวิคตอเรีย ไม่เว้นแม้แต่บรรดา
ไฮโซ
ที่นิยมหาซื้อมาเก็บสะสมกันไว้อวดกันในงานเลี้ยงน้ำชา ก็นับว่าเป็นรสนิยมแปลกๆ ที่คนในปัจจุบันเข้าไม่ถึงจริงๆ