สงสัยเจ้าที่แรง! เมื่อพระราชวังใน UAE ที่สร้างด้วยเงินหลายพันล้าน แต่กลับอยู่ไม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่สร้างเสร็จเพราะความหลอน
ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นประเทศที่มีฐานะร่ำรวยจากการทำธุรกิจส่งออกน้ำมันและขายอสังหาริมทรัพย์
ที่ชูจุดเด่นในเรื่องความหรูหรา แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าดินแดนแห่งนี้ก็มีเรื่องเล่าที่ชวนขนหัวลุกเช่นกัน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับตำนานสยองแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่น่ากลัวไม่แพ้ประเทศอื่นๆ
บ้านเราจะรู้จักประเทศนี้จากชื่อของ “ดูไบ” นครที่ใหญ่ที่สุดในของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ตอนนี้กลายเป็นเมืองที่อัตราความเจริญสูงมากแห่งหนึ่งของโลก แต่ในรัฐราสอัลไคมาห์ก็ถือว่าเจริญไม่แพ้กัน ในแต่ละรัฐของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้นจะถูกปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยจะมีเจ้าผู้ครองรัฐคอยดูแลและบริหารเมือง
ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 “ซุลฏอน บิน มุฮัมมัด อัลกอซิมี” เจ้าผู้ครองรัฐชาร์จาห์ได้ถูกอกถูกใจที่ดินแปลงหนึ่งในรัฐราสอัลไคมาห์จึงได้ขอที่ดินบริเวณนั้นมาสร้างพระราชวังเพื่อใช้พักอาศัย โดยคฤหาสน์หลังนี้นั้นใช้เงินสร้างถึง 500 ล้านเดอร์แฮม (ประมาณ 4,500 ล้านบาท) ใช้เวลาในการก่อสร้างร่วม 2 ปีจนเสร็จสิ้น ภายตกแต่งอย่างหรูหราตามประสาเศรษฐีดูไบ
แต่ทว่าเมื่อพระราชวังสร้างเสร็จกลับต้องถูกปล่อยให้ทิ้งร้างเพราะมันไม่สามารถอยู่ได้ โดยในคืนแรกที่เจ้านครรัฐชาร์จาห์และครอบครัวได้เข้าไปพักต้องพบกับเหตุการณ์สยองขวัญเริ่มตั้งแต่เสียงประหลาดที่ดังมาจากห้องที่ไม่มีใครอยู่ โดยเป็นเสียงของคนที่คุยกันเป็นภาษาอาหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งบริเวณนั้นสงวนไว้สำหรับครอบครัวของเจ้านครรัฐเพียงเท่านั้นไม่ใช่ที่ที่แม่บ้านหรือคนงานจะเข้าไปได้ ซึ่งก็สร้างความแปลกใจให้กับสมาชิกภายในครอบครัวเป็นอย่างมาก
ต่อมาไม่นานทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องอาหารก็ต้องพบกับเหตุการณ์ประหลาดขึ้นอีกครั้งเมื่อเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจู่ๆ ก็ถูกโยนไปโยนมาโดยที่มองไม่เห็นคนที่โยน แน่นอนว่าภาพแบบนี้ต้องทำให้ทุกคนรีบกรูออกมาจากห้องอาหารโดยเร็ว ซึ่งก็มีเสียงหัวเราะชอบใจของเด็กเล็กดังออกมาไล่หลังทุกคน
ในคืนนั้นเองโรงแรมใกล้เคียงต้องทำการต้อนรับสมาชิกครอบครัวของเจ้านครรัฐฯ กันเป็นการใหญ่เพราะไม่มีใครกล้าที่จะอยู่อาศัยภายในพระราชวังแห่งนั้นอีก รวมไปถึงบรรดาแม่บ้านที่เจอดีถึงห้องพักที่อยู่ด้านหลังพระราชวัง ซึ่งพวกเขาเห็นเงาขนาดใหญ่ภายในห้องนอนตัวเองพร้อมๆ กับการปาของใส่ให้อยู่ไม่ได้จนต้องระเห็จตามออกมาที่โรงแรม
แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องจบลงที่การไปค้นประวัติของสถานที่นี้ ซึ่งถ้าเป็นทั่วๆ ไปก็คงจะต้องบอกว่าเป็นที่ดินที่มีประวัติ เช่น เคยเป็นที่ฝังศพหรือเป็นที่ดินโบราณหรือไม่ก็มีคนตายขณะก่อสร้างแต่เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นไม่เคยเกิดขึ้นบนพื้นที่แห่งนี้ ปรากฏการณ์นี้จึงกลายเป็นเหตุการณ์ลึกลับที่หาประวัติไม่ได้ว่าเหตุใดวิญญาณจึงเข้าไปสิงสถิตในพระราชวังแห่งนี้
ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้ถูกปล่อยทิ้งร้างมากว่า 20 ปี ซึ่งมีหลายคนที่เคยได้ยินข่าวและเข้าไปลองของก็ต้องหนีออกมาไม่พ้นรุ่งเช้ากันทุกรายเพราะเหตุการณ์คล้ายคลึงกับที่เจ้านครรัฐชาร์จาห์ที่เจอในวันแรกจนเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่หลอนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่หนึ่งเลยทีเดียว
เรียบเรียง : Sp