ค้นหา

ที่นี่มีผี..รวมเรื่องลึกลับสยองขวัญสั่นประสาทตาเหลือกตากลับ
บางทีก็น่ากลัวบางทีก็ไม่น่ากลัวรวมๆกันไป
ที่นี่เปิด รับทุกอย่างที่เกี่ยวกับผีๆวิญญาณ
ท่านใดชอบเรื่องผีหรือมีคลิปผีถ่ายติดวิญญาณ.. น่าสนใจ..
ติดต่อส่งตั้งกระทู้มาที่ ghost-in-manman ด้านข้างครับ
แนะนำข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเชิญได้ครับ
ดูเว็บ ghost-in-manman แล้วหาความรู้เพิ่มเติม..ไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่ครับ
สุดท้ายขอขอบคุณเพื่อนๆที่ให้ความสนใจและ ให้ข้อมูลเรื่องน่ากลัวๆเรื่องประสบการณ์ทางวิญญาณ มาทางเราจะนำมาลงให้อ่านกันในครั้งต่อไปนะครับ.....
อย่าลืมดูเว็บ ghost-in-manman

chat love manman1

chat love manman 2

chat love manman 3

chat love manman 4

chat love manman 5

chat love manman6

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ที่มาของคำว่าแวมไพร์ และการค้นพบชุดเครื่องมือโบราณสำหรับปราบแวมไพร์ของขุนนางอังกฤษในสมัยวิกตอเรียที่เพิ่งถูกนำออกประมูล

ที่มาของคำว่าแวมไพร์ และการค้นพบชุดเครื่องมือโบราณสำหรับปราบแวมไพร์ของขุนนางอังกฤษในสมัยวิกตอเรียที่เพิ่งถูกนำออกประมูล

คำว่าแวมไพร์
แวมไพร์..เป็นผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรป ในยุคกลาง เชื่อว่าเป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง

โดยที่แวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันแก่และตาย จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้แสงแดด แวมไพร์จะหลบซ่อนอยู่ในโลงของตนหรือในหลุมในเวลากลางวัน สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, หมาจิ้งจอก, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกายหายตัวได้ ไม่มีเงาเมื่อกระทบกับแสงหรือสะท้อนในกระจก

มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน รวมถึงสามารถบังคับสิ่งของให้เคลื่อนที่ด้วยอำนาจของตนได้ด้วย สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม วิธีฆ่าแวมไพร์มีมากมาย เช่น ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือ ตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของมัน จะกลายเป็นแวมไพร์ไปด้วย และกลายเป็นสาวกของแวมไพร์ตนที่ดูดเลือดตัวเอง

การค้นพบชุดเครื่องมือโบราณสำหรับปราบแวมไพร์ของขุนนางอังกฤษในสมัยวิกตอเรียที่เพิ่งถูกนำออกประมูล

ชุดเครื่องมือสมัยศตวรรษที่ 19 มีกลไกลับสำหรับการปิด-เปิด

ชุดเครื่องมือโบราณสำหรับปราบแวมไพร์ของขุนนางอังกฤษในสมัยวิกตอเรียที่เพิ่งถูกนำออกประมูล ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อเรื่องตำนานผีดิบดูดเลือดของผู้คนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน

ชุดเครื่องมีปราบแวมไพร์นี้เพิ่งถูกนำออกประมูลในมณฑลดาร์บีเชอร์ของอังกฤษ และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ประมูลไปในราคา 13,000 ปอนด์ (ราว 445,000 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาที่ตั้งไว้ถึง 5 เท่า

ชุดเครื่องมือซึ่งบรรจุอยู่ในกล่องไม้ในสมัยศตวรรษที่ 19 ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ ไม้กางเขน ปืน ค้อนไม้ ขวดน้ำมนต์ สร้อยลูกประคำ แท่งหมุดปักหน้าอก และคัมภีร์ไบเบิล

ที่ฝากล่องเครื่องมือมีไม้กางเขนทองเหลือง ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวล็อกลับของกล่อง ขณะที่อุปกรณ์ที่อยู่ภายในมีการสลักชื่อและที่อยู่ของลอร์ด เฮลีย์ อดีตผู้ปกครองระดับสูงในยุคที่อินเดียเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ไม่ชัดเจนว่า ขุนนางผู้นี้มีความจริงจังเรื่องการปราบแวมไพร์มากน้อยเพียงใด และได้เคยใช้อุปกรณ์เหล่านี้หรือไม่

Lord Hailey

ลอร์ด เฮลีย์ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในสมัยวิกตอเรีย

ลอร์ด เฮลีย์ มีชื่อจริงว่า วิลเลียม มัลโคล์ม เฮลีย์ หรือ บารอนเฮลีย์ที่ 1 เกิดในปี 1872 เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้รอบรู้ โดยเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลปัญจาบระหว่างปี 1924 - 1928 และมณฑลสันยุกตปรานต์ระหว่างปี 1928 - 1934 ซึ่งเป็นยุคที่อังกฤษปกครองอินเดีย

ลอร์ด เฮลีย์ ถือเป็นบุคคลสำคัญของชาติ เขาเสียชีวิตในปี 1969 และมีแผ่นจารึกชื่ออยู่ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ในกรุงลอนดอน

ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ

คนอังกฤษในยุควิกตอเรีย (ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียระหว่างปี 1837 - 1901) มีความเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับแวมไพร์และบรรดาภูตผีปิศาจชนิดต่าง ๆ

แดร๊กคูลา

ชาร์ลส์ ฮันสัน เจ้าของสำนักจัดการประมูลครั้งนี้กล่าวว่า "แวมไพร์เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสมัยนิยม (popular culture) มายาวนานกว่า 200 ปี โดยอยู่คู่กับคติความเชื่อของผู้คนในยุโรปมาช้านาน"

เขาอธิบายว่า นิยายสั้นเรื่อง The Vampyre ของจอห์น พอลิดอรี ที่ตีพิมพ์ในปี 1819 มีอิทธิพลสำคัญและทำให้เกิดนวนิยายชื่อดังเกี่ยวกับผีดิบดูดเลือดของ บราม สโตกเกอร์ เรื่อง "แดร็กคิวลา" (Dracula) ที่ตีพิมพ์ในปี 1897

อย่างไรก็ตาม ฮันสันบอกว่า ความเชื่อเรื่องแวมไพร์และสิ่งเหนือธรรมชาติมีจุดกำเนินมาช้านานกว่านั้น และยังคงเป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน คนยุคก่อนยึดถือภารกิจการฆ่าแวมไพร์เป็นเรื่องจริงจัง และข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้ระบุถึงการใช้เครื่องมือและวิธีการเฉพาะในการฆ่าผีดิบดูดเลือดชนิดนี้ที่เชื่อกันว่ามีชีวิตเป็นอมตะจากการกินเลือดมนุษย์

รายการบล็อกของฉัน