ผมจำได้ว่า ในสมัยก่อนผมมักถูกผีอำบ่อยครั้งถึงแม้จะพอเข้าใจว่า เป็นอาการจากการนอน
ไม่ถูกสุขนิสัย นอนไม่พอเพียง หรือนอนผิดท่าแต่พอเป็นทีไร ก็ต้องพยายามไขว่คว้าหาพระที่คอเป็นประจำ
หลังๆมาจึงเปลี่ยนเป็นนอนตะแคง ไม่กล้านอนหงายซึ่งก็แทบจะไม่เป็นอาการที่เรียกว่า ผีอำ อีกเลย
จริงๆแล้ว ก็อย่างที่พวกเรารู้แหละครับว่า ผีอำไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ผีจริงๆ แต่อย่างใดเลย
แต่เกิดจากภาวะที่สมองขาดการเชื่อมต่อกับร่างกายในขณะที่กำลังจะเข้าหรือออกจากภาวะหลับฝัน(REM)
จากการศึกษาภาวะคนที่ถูกผีอำนี้ พบว่าคนประมาณร้อยละ 50 ต่างก็เคยถูกผีอำอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต
คนส่วนใหญ่ในจำนวนนี้ เห็นภาพหลอนในขณะถูกผีอำด้วยเช่น ได้ยินเสียง เห็นภาพหลอน รู้สึกว่าตัวลอยหรือ ไม่สามารถขยับร่างกายได้ เป็นต้น
ส่วนวิธีแก้ไม่ให้ถูกผีอำ ก็คือ สร้างสุขนิสัยในการนอนหลับนอนหลับพักผ่อนให้เป็นเวลา และนอนให้เพียงพอรวมไปถึง ดูแลสุขภาพจิตใจและอารมณ์ของตนเองไม่ให้อยู่ในภาวะเครียด และผันผวนทางอารมณ์มากนักก็จะไม่ทำให้เราเป็นอาการที่เรียกว่า ถูกผีอำ ได้ครับเพราะผีอำ มักจะเกิดขึ้นในคนที่มีอารมณ์เครียด
คนที่มีอารมณ์ โกรธ โลภ หลง เศร้าสลด วิตกกังวล หวาดระแวง กลัว อิจฉาริษยา ฯลฯ
เมื่อเวลานอนเคลิ้มๆ(จะหลับหรือตื่น) ก็จะเกิดความฝันจากอารมณ์ไม่ดีของตนการมีอารมณ์ไม่ดีจะทำให้หายใจเข้าออกยาวๆเหมือนหอบ การหายใจเข้าออกเหมือนหอบสักพักหนึ่งคาร์บอนไดออกไซด์จะสลายตัวออกมาจากกรดคาร์บอนิคในเลือด เมื่ออกมามาก กรดคาร์บอนิคลดน้อยลง
อัตราส่วนของด่างก็จะมีมากกว่ากรด เลือดก็จะมีฤทธิ์ด่างเพิ่มขึ้น และเมื่อเลือดมีฤทธิ์ด่างมากขึ้น ก็จะให้เรามีอาการอึดอัดในอกเหมือนมีของทับอก หายใจไม่ค่อยออก เหมือนหอบ ชามือชาเท้า มึนและเวียนศีรษะ รู้สึกหมดเรี่ยวแรงจนเหมือนจะขยับเขยื้อนตัวไม่ได้
ซึ่งนี่แหละครับ อาการที่เรียกว่า ถูกผีอำ นั่นเอง