หมอผีอาจจะเป็นหญิงมีอายุ แต่โดยทั่วไปแล้วจะเป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความสามารถเฉพาะตัวพิเศษที่สามารถฝึกฝนให้แช็งกล้าขึ้นมาได้ บทบาทสำคัญของหมอผีในชุมชน คือรวบรวมพลังจิตของชุมชนให้มีผลดีต่อสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ การที่หมอผีสามารถควบคุมพลังวิญญาณได้นั้น ก็จะมีผลต่อการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วย การสงคราม และการล่าสัตว์
บทบาทของหมอผีเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ "ยุคหินเก่า"(Paleolithic) ซึ่งพวกเขามีอิทธิพลมากในสังคมล่าสัตว์สมัยนั้น หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่พบได้แก่ ในผนังถ้ำเลส์ ทรัวส์ แฟรส์ (Les Trois Freres) ในฝรั่งเศส มีภาพเขียนสีที่มีอายุกว่า 15,000 ปี อยู่บนผนังถ้ำ ภาพที่วาดแสดงถึงพิธีกรรมของหมอผี ที่ประกอบขึ้นในการล่าสัตว์ อีกทั้งยังพบภาพเขียนสีที่ "ผาหินแต้ม" ในประเทศไทยอีกด้วย
ในสังคมล่าสัตว์ มนุษย์ต้องพึ่งพาสัตว์เพื่อความอยู่รอด มนุษย์จึงต้องการผู้ที่สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์กับสัตว์ได้ หมอผีมีหน้าที่หลอกล่อและบังคับให้สัตว์ยอมสละชีวิตให้แก่นักล่า
หมอผีมีส่วนช่วยแก้ปัญหาในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ความล้มเหลวในการล่าสัตว์ หรือแม้แต่การทะเลาะวิวาท บทบาทของหมอผี ครอบคลุมในหลายๆด้าน ความเจ็บป่วย มักจะมีความเชื่อว่า ความเจ็บป่วยเกิดจากการหายตัวของดวงวิญญาณผู้ป่วย มีสาเหตุจากการถูกรบกวนจากวิญญาณดวงอื่น หรือจากพ่อมด อาจมีผู้ไม่หวังดีเสกวัตถุต่างๆเข้าไปในตัวผู้ป่วย ทำให้เกิดอันตราย และหมอผีเท่านั้น จะเป็นผู้ประกอบพิธีนำวัตถุนั้นๆออกมา หรือช่วยค้นหาดวงวิญญาณที่หายไป หมอผีสามารถท่องโลกวิญญาณ สื่อสารกับสัตว์ ทำนายดินฟ้าอากาศ หยั่งรู้อนาคต และค้นหาสิ่งของที่หายไป
หมอผีเป็นผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ที่สุดในโลกเร้นลับ สามารถใช้เวทมนต์คาถา บุกน้ำ ลุยไฟ ท่องไปในอากาศ หายตัว เปลี่ยนแปลงกฎธรรมชาติและทำนายอนาคตได้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นหมอผีได้ ความสามารถนี้จะต้องมีมาแต่กำเนิด และฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้น เมื่อหมอผีเข้าสู่วัยรุ่น ก็จะแยกตัวไปอยู่สันโดษ เข้าฌาน และเดินท่องไปในโลกวิญญาณ
ดวงวิญญาณทีเป็นมนุษย์ธรรมดาจะถูกทำลายด้วยวิธีต่างๆ เช่น ตัดศรีษะ แยกร่าง เผา หรือถูกย่อส่วนให้เหลือเพียงโครงกระดูก หลังจากนั้น พวกเขาจะถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่โดยเหล่าวิญญาณ ทำให้มีร่างใหม่และจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้น
หมอผีจะเรียนรู้การติดต่อกับโลกวิญญาณโดยการเข้าฌานเป็นหลัก น่าแปลกที่ว่าแม้สังคมและวัฒนธรรมจะต่างกันแต่พิธีการติดต่อกับโลกวิญญาณก็จะเป็นไปในลักษณะเดียวกัน
แพทย์และปรัชญาเมธีชาวสวิส ชื่อ พาราเซลซุส (Paracelcus) กล่าวเมื่อพุทธศตวรรษที่ 21 ว่า มนุษย์ยังไม่ ค้นพบความสามารถของจิตใจตนเอง ทุกคนสามารถเรียนรู้และบังคับจินตนาการเพื่อติดต่อกับโลกวิญญาณและเรียนรู้บางอย่างจากมันได้
การรักษาโรคของหมอผี ไม่สามารถหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายได้ หมอผีถือว่าความเจ็บป่วยเป็นการเสียพลังของคน ในขณะที่ทางการแพทย์กล่าวว่า ความเจ็บป่วยคือการที่กระบวนการต้านทานอ่อนแอลง การรักษาหมอผี จะเป็นการแสดงออกที่รุนแรงเพื่อเรียกพลังกลับคืนมาสู่ผู้ป่วยหรือสร้างเกราะป้องกันจิตใจให้กับเขา ในพิธีการรักษาบางครั้งจะมีการดึงหรือถอนวัตถุบางอย่างออกมาจากร่างกายเพื่อให้ผู้ป่วยเชื่อว่าตนได้ถูกเยียวยาแล้ว
ที่มา อาณาจักรเร้นลับ : บัวแก้ว ไชยหลวงผา : บก. เรียบเรียง