เสียงชายวัยกลางคนกำลังยืนเรียกผมอยู่ทางด้านนอก ผมรีบเปิดกลดออกไปดูทันที ขอโทษนะครับท่าน ที่มารบกวนยามวิกาล แต่ผมหิวน้ำเลยต้องมาขอรบกวนท่าน ชายคนนั้นพูดจาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่เป็นไรหรอกโยม รอสักครู่นะ เดี๋ยวอาตมาไปหยิบให้…หลังจากที่ชายคนนั้นดื่มน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มานั่งคุยกับผมอยู่ซักพัก…นี่โยมไปทำอะไรมา เนื้อตัวถึงได้มอมแมมขนาดนี้…อีกอย่างดึกดื่นป่านนี้ ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก…ผมถาม ชายคนนั้นนั่งนิ่งอยู่ซักพัก ก่อนตอบกลับมาว่า ผมกำลังหาทางกลับบ้านอยู่ครับท่าน อืม! งั้นก็รีบกลับบ้านได้แล้ว ป่านนี้คนที่บ้านเป็นห่วงแย่แล้ว งั้นถ้าไม่มีอะไร ผมขอตัวลากลับก่อนนะครับ
ชายคนนั้นพูดเสร็จก็ก้มลงกราบผมด้วยความนอบน้อม ไปดีมาดีนะโยม ผมอวยพร ชายคนนั้นก็ค่อยๆ เดินหายไปในความมืด…แต่ทว่าผ่านไปแค่คืนเดียว ชายคนนั้นก็กลับมาเรียกผมที่จุดเดิมอีก ซึ่งก็เหมือนเดิม ชายคนนั้นมาขอน้ำกินอีก และที่สำคัญคือ เขายังหลงทางอยู่และหาทางกลับบ้านไม่ได้ อืม…แล้วโยมอยู่ที่ไหนละ ผมถามด้วยความสงสัย ผมก็อาศัยอยู่ตรงที่ท่านอยู่นี่แหละครับ อ้าว! เอาแล้ว ผมได้ยินอย่างนั้นถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกเลย…แล้วโยมจะมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ละ ก็อาตมาปักกลดอยู่ตรงนี้ได้ 3-4 วันแล้ว ยังไม่เห็นมีใครผ่านมาแถวนี้เลยซักคนเดียว ผมอยู่ตรงที่ท่านอยู่ตรงนี้จริงๆ ขายคนนั้นยังยืนกราน จะเป็นไปได้ยังไงละ ผมเริ่มสงสัย ก็ท่านปักกลดทับผมอยู่ ฮ่า! เวรแล้วไง ผมคิดในใจ หรือว่าชายที่อยู่เบื้องหน้าเราจะเป็น…ผ…ผะ…ผี
เช้าวันต่อมา ผมรีบไปบอกพระอาจารย์เพื่อที่ท่านจะได้ไปตามหาญาติพี่น้องของชายคนนั้น ซึ่งภายหลัง ญาติก็ได้มาขุดศพกลับไปทำพิธีตามประเพณี ตอนนั้น ผมจำได้ว่าคืนก่อนวันที่ผมจะลาสิกขาบท วิญญาณของชายคนนั้น ได้มาเข้าฝันผมอีกครั้ง เพื่อมาขอบคุณและอวยพรให้ผมโชคดี ขอบคุณนะที่มาในฝัน ขืนมาให้เห็นเหมือนกับตอนนั้น มีหวังวิ่งจีวรบินแน่