San Pedro Mountains Mummy
เรื่องราวพิศวงของมัมมี่แห่งเทือกเขา โปโดรเริ่มต้นขึ้นเมื่อคนสำรวจแร่สองคนได้ค้นพบห้องประหลาดในขณะที่พวกเขาระเบิดเพื่อหาทองในเทือกเขาเปโดร ประมาณ 60 กิโลเมตรทางทิศใต้จองแคสเปอร์ ไวโอมิง ห้องดังกล่าวเป็นห้องขนาดเล็กสูงประมาณสูง 4 ฟุต (1.22 เมตร) กว้าง 15 ฟุต (4.57 เมตร) หลังจากเข้าสู่ห้องคนงานเหมืองก็พบสิ่งแปลกประหลาดใจเมื่อเขาพบมัมมี่ผู้ชายตัวเล็กๆ นั่งตั้งฉากกับพื้น
แต่ที่น่าสนใจคือมัมมี่ดังกล่าวมีขนาดเล็กมากมีน้ำหนักเพียง 12 ออนซ์ สูง 7 นิ้ว(สำหรับมันนั่ง) และหากมันยืนจะสูง 14 นิ้ว(0.35 เมตร) เท่านั้น ผิวของมันมีสีน้ำตาลและมีรอยกะโหลกแบน ปากกว้าง ริมผีปากบาง และจมูกแบนใหญ่ ดูแล้วบ่บอกเลยว่ามัมมี่ดังกล่าวอาจไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา
จากการตรวจสอบก็ยิ่งพบเรื่องพิศวงร่างกายของมัมมี่ถูกเก็บเป็นอย่างดี มีการใช้ของเหลวในการรักษาสภาพ นักวิทยาศาสตร์ที่มาจากทั่วประเทศต่างเข้ามาตรวจสอบและหาคำตอบว่ามันคืออะไร ในปี 1950 มีการใช้รังสีเอ็กซ์เรย์ตรวจสอบพบว่ามีโครงกระดูกในมัมมี่ บางส่วนของกระดูกหักรวมทั้งกระดูกไหปลาร้าและกะโหลกศีรษะการบาดเจ็บเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุทำให้เจ้าของมัมมี่ตาย ส่วนร่างก่อนตายของมัมมี่ก็
(0.10 เมตร)
มีการสันนิษฐานมัมมี่หลากหลายคนพื้นเมืองเชื่อว่ามัมมี่ดังกล่าวคือคนแคระที่พวกเขาเรียกว่า Nimerigar
ตำนานพื้นเมืองที่กล่าวถึงคนตัวเล็กที่มีความสูงประมาณ 20 นิ้ว ที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่เทือกเขาซานเปโดรและต่อสู้กับมนุษย์ด้วยลูกศรอาบยาพิษ
ทำให้เชื่อว่ามัมมี่ดังกล่าวคือคนแคระที่ป่วยหรือมีอายึและถูกฆ่าด้วยพวกเดียวกันเองโดยการเป่าหัวและการค้นพบมัมมี่คนแคระดังกล่าวได้เชื่อมโยงกับสุสานคนแคระหลายแห่งทั่วอเมริกาใต้อีกด้วยทำให้เชื่อกันว่าโลกของเรานั้นมีคนแคระอยู่จริงอย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเชื่อว่ามัมมี่ดังกล่าวเป็นของปลอมโดยสองคนงานเหมืองเอาศพทารกในโรงพยาบาลมาทำกรรมวิธีเหมือนมัมมี่โบราณเท่านั้นเอง
ทำให้เชื่อว่ามัมมี่ดังกล่าวคือคนแคระที่ป่วยหรือมีอายึและถูกฆ่าด้วยพวกเดียวกันเองโดยการเป่าหัวและการค้นพบมัมมี่คนแคระดังกล่าวได้เชื่อมโยงกับสุสานคนแคระหลายแห่งทั่วอเมริกาใต้อีกด้วยทำให้เชื่อกันว่าโลกของเรานั้นมีคนแคระอยู่จริงอย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเชื่อว่ามัมมี่ดังกล่าวเป็นของปลอมโดยสองคนงานเหมืองเอาศพทารกในโรงพยาบาลมาทำกรรมวิธีเหมือนมัมมี่โบราณเท่านั้นเอง
หากแต่เรื่องราวดังกล่าวไม่ได้รับการพิสูจน์ เนื่องจากมัมมี่ได้หายไปในเพราะการเปลี่ยนมือเจ้าของหลายคน มีการตั้งเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์ หากใครก็ตามที่หามัมมี่ดังกล่าวพบ แต่จนบัดนี้ไม่มีใครพบมัมมี่ที่ว่าได้เลย