เรื่องที่ 2 ก็คือเหตุการณ์ตอนที่ผมกับภรรยาไปรับรูป นั่นแหละครับ หลังจากที่ผมกับภรรยารับรูปแล้วกลับมาที่รถ พอเข้าไปนั่งในรถเท่านั้นแหละ ผมกับภรรยาก็ได้กลิ่นยาหม่องที่แม่ชอบใช้เป็นประจำ อบอวลไปทั้งรถ ทำให้ภรรยาของผมถึงกลับร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวเลยทีเดียว จากนั้นกลิ่นยาหม่องก็ค่อยๆ จางหายไป นั่นเป็นสิ่งแรกและสิ่งเดียวที่ผมสามารถสัมผัสได้ ทางประสาทสัมผัสปกติ ผมคิดว่าแม่เองก็คงอยากมาดูรูปเหมือนกัน
พอพูดอย่างนี้หลายคนคงคิดต่อไปว่า ผีคงเหมือนกับในหนัง ในละคร ที่มีอิทธิฤทธิ์มากมาย ผิดถนัดครับ ผีก็คือคนที่ไม่มีร่างกายเฉยๆ มีอารมณ์กลัว โกรธ บางทีก็โกหกด้วย อิทธิฤทธิ์ต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมี ลักษณะการเสียชีวิต เวลาที่เสียชีวิต สถานที่เสียชีวิต ล้วนแต่มีผลต่ออิทธิฤทธิ์ของดวงวิญญาณ นั้นๆ และเท่าที่ทราบผมคิดว่า ไม่มีผีตนใดที่จะบันดาลโชคลาภ บอกเลขท้าย 2 ตัว หรือทำร้ายใครได้เลย มิฉะนั้นคดีฆาตกรรม ต่างๆ ก็คงไม่ต้องอาศัยตำรวจแล้วครับ ผีอาฆาตทั้งหลายคงติดตามไปเอาชีวิต ลงโทษ เจ้าฆาตกรทั้งหลายด้วยตัวเอง ก่อนที่ตำรวจจะสืบทราบและจับกุมได้เสียอีก เรื่องความสามารถของผีนั้นจากประสบการณ์ของผม ผีมีความสามารถที่ผมพิสูจน์ได้อย่างค่อนข้างมั่นใจ คือ
1. สามารถอ่านใจคนได้ ถ้าคนๆนั้น สัมผัสถึงเขา เปิดใจรับ เพราะฉะนั้นเวลาที่เล่นผีถ้วยแก้ว ก็อย่าแปลกใจที่ ผีจะตอบในสิ่งที่อยู่ใจ หรือ ที่เรากำลังคิดอยู่ได้
2. ผีเคลื่อนที่ได้รวดเร็วเท่าความคิด คือถ้ามีใครคิดถึงเขา เรียกเขา เขาก็จะไปหาในทันที ที่ถูกเรียก
3. สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้บ้าง มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับฤทธิ์ของแต่ละตน
4. ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับคน ถ้าไม่จำเป็น หรือถูกเรียกมา
5. ไม่สามารถเคลื่อนย้าย เปลี่ยนแปลงวัตถุต่างๆได้โดยลำพัง ผีต้องอาศัยคนเป็นสื่อกลางจึงจะทำได้
6. สามารถติดต่อได้ทั้งกลางวัน กลางคืน ถ้าไม่เชื่อสำหรับคนที่เคยเล่นผีถ้วยแก้ว ก็ลองเล่นตอนกลางวันดูก็ได้ครับ แต่อาจจะเดินช้าไปหน่อย
7. เรื่องอาหาร,เครื่องเซ่นผี ไม่จำเป็นต้องเตรียมให้มากเหมือนกับคนกินหรอกครับ
2. ผีเคลื่อนที่ได้รวดเร็วเท่าความคิด คือถ้ามีใครคิดถึงเขา เรียกเขา เขาก็จะไปหาในทันที ที่ถูกเรียก
3. สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้บ้าง มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับฤทธิ์ของแต่ละตน
4. ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับคน ถ้าไม่จำเป็น หรือถูกเรียกมา
5. ไม่สามารถเคลื่อนย้าย เปลี่ยนแปลงวัตถุต่างๆได้โดยลำพัง ผีต้องอาศัยคนเป็นสื่อกลางจึงจะทำได้
6. สามารถติดต่อได้ทั้งกลางวัน กลางคืน ถ้าไม่เชื่อสำหรับคนที่เคยเล่นผีถ้วยแก้ว ก็ลองเล่นตอนกลางวันดูก็ได้ครับ แต่อาจจะเดินช้าไปหน่อย
7. เรื่องอาหาร,เครื่องเซ่นผี ไม่จำเป็นต้องเตรียมให้มากเหมือนกับคนกินหรอกครับ
เอาล่ะครับ..ก็คงพอจะรู้จักผีมากขึ้นแล้วนะครับ อันที่จริงเรื่องผีๆนี้ผมยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์ ได้อีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น เรื่องผีสิง เจ้าเข้าทรง ก็เอาไว้โอกาสหน้าล่ะกันครับ แต่อยากจะติงให้คิดไว้ซักนิดครับ เกี่ยวกับ เจ้าเข้าทรงบางสำนัก ที่อวดอ้างตัวว่าเป็นเทพ เวลาพูดก็ต้องพูดด้วยภาษาเทพ แต่พอมีใครพูดด้วยเป็นภาษาไทย กลับฟังรู้เรื่อง อีกอย่างนะครับ แต่ไหนแต่ไรมา เวลาเราไปบนบาน ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพรหม พระนารายณ์ พระอิศวร ผมยังไม่เคยเห็นใครบนบานเป็นภาษาเทพเลย ก็ยังสมหวังตามปรารถนากันตั้งมากมาย บางสำนักก็อ้างว่าเป็นถึง กษัตริย์เชื้อพระวงศ์แต่กลับไม่รู้จัก คำราชาศัพท์ พูดได้แต่สำนวนลิเก พวกเราก็ต้องไตร่ตรองให้มาก เมื่อเจอกับพวกจอมปลอมทั้งหลายแหล่เหล่านี้ ถึงตรงนี้ หลายคนคงคิดแย้งอีกว่า “ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่” ผมก็ขอย้ำคำเดิมครับ ผมเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ เชื่ออย่างมีเหตุผล เชื่อในสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ ยกตัวอย่างเช่น วิชาโหราศาสตร์ แรกๆผมก็คิดว่างมงาย ไร้สาระ ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน คนต่างหากที่กำหนดชีวิตของตัวเอง ก็ด้วยความคิดที่ว่าจะหักล้างความคิดใครเขา เราก็ต้องรู้ให้จริงเสียก่อน จากนั้นผมจึงเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง หลายปีผ่านไป หลังจากได้รับการอบรมสั่งสอนจากครูอาจารย์ที่เชี่ยวชาญและเปี่ยมความรู้หลายท่าน ทำให้ผมต้องยอมรับเลยครับว่า ผมคิดผิด วิชาโหราศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์จริงๆ สามารถพิสูจน์ได้ เห็นไหมครับนี่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร ที่เราจะต้องเริ่มจากความไม่รู้ก่อนที่จะรู้ สำหรับเรื่องที่ผมติงไว้ให้คิด ท่านผู้อ่านทั้งหลายก็ต้องใช้สติ คิดพิจารณาไตร่ตรองเอาเองครับ เรื่องที่ผมเล่ามาให้ฟังทั้งหมดนี้ มันอาจจะขัดแย้งกับความคิดของใครหลายคนและเป็นการยากที่จะเชื่อได้ ถึงแม้ผมจะรับรอง ยืนยันอย่างไรก็ตาม เอาเถอะครับ ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมีใครมาเชื่อผม มากน้อยแค่ไหน ผมหวังแต่เพียงว่า ท่านผู้อ่านจะได้รับรู้
เรื่องราวเกี่ยวกับผี ในอีกมุมมองหนึ่ง ตามทัศนะของผมเท่านั้น และอยากให้ทุกท่านใช้ สติพิจารณาไตร่ตรอง โดยยึดหลักธรรม กาลามสูตร ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสั่งสอนว่า อย่าได้เชื่อเพราะเหตุ 10 ประการดังนี้
1. อย่าได้เชื่อถือ ตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
2. อย่าได้เชื่อถือ ตามถ้อยคำสืบๆกันมา
3. อย่าได้เชื่อถือ โดยตื่นข่าวว่าได้ยินอย่างนี้ (ข่าวลือ)
4. อย่าได้เชื่อถือ โดยอ้างตำรา
5. อย่าได้เชื่อถือ โดยเดาเอาเอง
6. อย่าได้เชื่อถือ โดยคาดคะเน
7. อย่าได้เชื่อถือ โดยความตรึกตามอาการ
8. อย่าได้เชื่อถือ โดยชอบใจว่าต้องกับทิฐิของตน
9. อย่าได้เชื่อถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
10. อย่าได้เชื่อถือ โดยความนับถือว่าสมณะนี้คือ ครูของเรา
2. อย่าได้เชื่อถือ ตามถ้อยคำสืบๆกันมา
3. อย่าได้เชื่อถือ โดยตื่นข่าวว่าได้ยินอย่างนี้ (ข่าวลือ)
4. อย่าได้เชื่อถือ โดยอ้างตำรา
5. อย่าได้เชื่อถือ โดยเดาเอาเอง
6. อย่าได้เชื่อถือ โดยคาดคะเน
7. อย่าได้เชื่อถือ โดยความตรึกตามอาการ
8. อย่าได้เชื่อถือ โดยชอบใจว่าต้องกับทิฐิของตน
9. อย่าได้เชื่อถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
10. อย่าได้เชื่อถือ โดยความนับถือว่าสมณะนี้คือ ครูของเรา
ข้อที่สอนให้พิจารณา ซึ่งควรทำก่อนที่จะเชื่อ 4 ประการ
1. ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศลหรือ กุศล
2. มีโทษหรือไม่มีโทษ
3. วิญญูชนติเตียนหรือ สรรเสริญ
4. ถ้าประพฤติปฏิบัติแล้วจะก่อให้เกิดสิ่งไม่เป็นประโยชน์ความทุกข์หรือ ก่อให้เกิดประโยชน์ความสุข
หลักธรรมข้อนี้ ผมยึดถือเป็นหลักในการพิจารณาไตร่ตรอง เรื่องราวต่างๆ เป็นประจำท่านผู้อ่านก็ลองนำหลักธรรมข้อนี้ ไปใช้พิจารณาความเชื่อดูนะครับ รับรองว่าท่านต้องได้รับประโยชน์อย่างมาก แน่นอน “ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่นะครับ”
1. ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศลหรือ กุศล
2. มีโทษหรือไม่มีโทษ
3. วิญญูชนติเตียนหรือ สรรเสริญ
4. ถ้าประพฤติปฏิบัติแล้วจะก่อให้เกิดสิ่งไม่เป็นประโยชน์ความทุกข์หรือ ก่อให้เกิดประโยชน์ความสุข
หลักธรรมข้อนี้ ผมยึดถือเป็นหลักในการพิจารณาไตร่ตรอง เรื่องราวต่างๆ เป็นประจำท่านผู้อ่านก็ลองนำหลักธรรมข้อนี้ ไปใช้พิจารณาความเชื่อดูนะครับ รับรองว่าท่านต้องได้รับประโยชน์อย่างมาก แน่นอน “ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่นะครับ”