7 ปริศนาการหายสาบสูญ
ไปอย่างลึกลับของลูกเรือ ที่ยังคงน่ากังขาจนถึงทุกวันนี้
ไปอย่างลึกลับของลูกเรือ ที่ยังคงน่ากังขาจนถึงทุกวันนี้
1. เรือไม้โบราณที่มีแต่ศพเน่าเละ
เรือไม้สภาพเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 12 ลำ ถูกพัดลอยมาเกยหาดที่ชายฝั่งในประเทศญี่ปุ่น ภายในเรือพบศพปริศนาสภาพเน่าเฟะจำนวนมากประมาณ 22 ศพ (ไม่สามารถนับจำนวนที่แน่นอนได้เนื่องจากสภาพศพเน่าเละเกินไป) บางศพก็เหลือเพียงแค่โครงกระดูกเท่่านั้น บางคนเชื่อว่าเป็นเรือของชาวประมงที่หลงออกนอกเส้นทาง หรืออาจเป็นเรือของทหารเกาหลีเหนือ ที่พยายามจะหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากพบร่องรอยอักษรภาษาเกาหลีสลักอยู่ที่ตัวเรือว่า “กองทัพของชาวเกาหลี” ซึ่งเป็นชื่อของกองกำลังป้องกันของทหารเกาหลีเหนือ
เรือไม้สภาพเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 12 ลำ ถูกพัดลอยมาเกยหาดที่ชายฝั่งในประเทศญี่ปุ่น ภายในเรือพบศพปริศนาสภาพเน่าเฟะจำนวนมากประมาณ 22 ศพ (ไม่สามารถนับจำนวนที่แน่นอนได้เนื่องจากสภาพศพเน่าเละเกินไป) บางศพก็เหลือเพียงแค่โครงกระดูกเท่่านั้น บางคนเชื่อว่าเป็นเรือของชาวประมงที่หลงออกนอกเส้นทาง หรืออาจเป็นเรือของทหารเกาหลีเหนือ ที่พยายามจะหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากพบร่องรอยอักษรภาษาเกาหลีสลักอยู่ที่ตัวเรือว่า “กองทัพของชาวเกาหลี” ซึ่งเป็นชื่อของกองกำลังป้องกันของทหารเกาหลีเหนือ
2. โศกนาฏกรรมบนเรือยอชท์มรณะ
ในเดือนเมษายน ปี 2007 เรือใบของนักท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า Kaz II ได้ออกเดินทางในทะเลพร้อมกับลูกเรือทั้งหมด 3 คน คือ Des Batten, Peter Batten และ John Tunstead แต่แล้วก็มีผู้พบเรือถูกทิ้งให้ลอยอยู่กลางทะเลและไม่มีวี่แววของลูกเรือแม้แต่คนเดียว ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก บ้างก็ว่าพวกเขาถูกโจรสลัดจับตัวไป บ้างก็ว่าพวกเขาเสพยาเสพติดเกินขนาด อย่างไรก็ตามในปี 2008 เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพในสวิลล์ที่รัฐควีนส์แลนด์ ยุติการพิจารณาและประกาศว่าพวกเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุ ซึ่งเกิดจากการขาดประสบการณ์การเดินเรือใบ โศกนาฏกรรมนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการที่พวกเขาแล่นเรือออกไป
ในเดือนเมษายน ปี 2007 เรือใบของนักท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า Kaz II ได้ออกเดินทางในทะเลพร้อมกับลูกเรือทั้งหมด 3 คน คือ Des Batten, Peter Batten และ John Tunstead แต่แล้วก็มีผู้พบเรือถูกทิ้งให้ลอยอยู่กลางทะเลและไม่มีวี่แววของลูกเรือแม้แต่คนเดียว ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก บ้างก็ว่าพวกเขาถูกโจรสลัดจับตัวไป บ้างก็ว่าพวกเขาเสพยาเสพติดเกินขนาด อย่างไรก็ตามในปี 2008 เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพในสวิลล์ที่รัฐควีนส์แลนด์ ยุติการพิจารณาและประกาศว่าพวกเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุ ซึ่งเกิดจากการขาดประสบการณ์การเดินเรือใบ โศกนาฏกรรมนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการที่พวกเขาแล่นเรือออกไป
3. MV Joyita ปริศนาลูกเรือที่หายไปอย่างลึกลับ
MV Joyita เป็นชื่อของเรือยอชท์ที่ถูกสร้างในปี 1931 และเปลี่ยนเจ้าของมาหลายคนจนสุดท้ายถูกทำให้กลายเป็นเรือเช่าเหมาลำ เรื่องราวลึกลับเกิดจากที่เรือ MV Joyita ถูกพบลอยลำอยู่ใกล้ชายฝั่งของประเทศฟิจิ แต่กลับไม่พบลูกเรือแม้แต่คนเดียว เรือออกเดินทางเพื่อไปยังหมู่เกาะโตเกเลาในปี 1955 และได้หายไปอย่างลึกลับในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ พร้อมกับผู้โดยสาร 25 ราย
MV Joyita เป็นชื่อของเรือยอชท์ที่ถูกสร้างในปี 1931 และเปลี่ยนเจ้าของมาหลายคนจนสุดท้ายถูกทำให้กลายเป็นเรือเช่าเหมาลำ เรื่องราวลึกลับเกิดจากที่เรือ MV Joyita ถูกพบลอยลำอยู่ใกล้ชายฝั่งของประเทศฟิจิ แต่กลับไม่พบลูกเรือแม้แต่คนเดียว เรือออกเดินทางเพื่อไปยังหมู่เกาะโตเกเลาในปี 1955 และได้หายไปอย่างลึกลับในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ พร้อมกับผู้โดยสาร 25 ราย
จนกระทั่งเรือถูกพบในสภาพทรุดโทรม เครื่องยนต์หลายเครื่องเกิดความเสียหาย ไม่มีร่องรอยเกี่ยวกับผู้โดยสารหรือลูกเรือ สินค้าหนักกว่าสี่ตันได้หายไปด้วย หลักฐานที่น่าสนใจคือนาฬิกาบนเรือหยุดเดินที่เวลา 10.25น. แสดงให้เห็นว่าโศกนาฏกรรมนี้ได้เกิดขึ้นในเวลากลางคืน วิทยุบนเรือถูกปรับเพื่อขอความช่วยเหลือสากล แต่ก็ไม่สำเร็จ
โดยทฤษฎีที่น่าเชื่อถือมากที่สุดคือ บนเรือเกิดน้ำรั่วไหลเข้ามาทางท่อหล่อเย็นในห้องเครื่อง และมันคงรั่วมานานแล้วกว่าจะมีคนมาพบเห็นเข้า ด้วยเหตุนี้ทำคนบนเรือจึงพากันลงเรือชูชีพออกไป ท้ายที่สุดพวกเขาเหล่านี้อาจจมน้ำหรือถูกปลาฉลามทำร้ายจนเสียชีวิต แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้นปริศนายังคงอยู่ต่อไป
4. Lyubov Orlova เรือที่ลอยเคว้งคว้างกลางแอตแลนติก
เรือเดินสมุทร Lyubov Orlova ถูกพบลอยเคว้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ในทิศทางคล้ายกำลังมุ่งหน้าสู่สหราชอาณาจักร คาดว่ามันลอยเคว้งกลางมหาสมุทรมาเกือบปี สภาพกลายเป็นเรือร้างเมื่อภายในไม่พบลูกเรือ พบเพียงแต่พวกหนูบนเรือที่กินเนื้อพวกเดียวกันเองเพื่อเอาชีวิตรอด
เรือเดินสมุทร Lyubov Orlova ถูกพบลอยเคว้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ในทิศทางคล้ายกำลังมุ่งหน้าสู่สหราชอาณาจักร คาดว่ามันลอยเคว้งกลางมหาสมุทรมาเกือบปี สภาพกลายเป็นเรือร้างเมื่อภายในไม่พบลูกเรือ พบเพียงแต่พวกหนูบนเรือที่กินเนื้อพวกเดียวกันเองเพื่อเอาชีวิตรอด
เรือลำนี้เต็มไปด้วยตำนานลึกลับ เมื่อปี 2010 เจ้าของเรือดังกล่าวกระโดดตึกฆ่าตัวตายเนื่องจากเป็นหนี้ก้อนโต จนไม่มีเงินจ่ายให้กับลูกเรือ มันจึงถูกจอดทิ้งไว้ที่ท่าเรือเซนต์จอห์น บนเกาะนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา มานานกว่า 2 ปี จนกระทั่งในปี 2013 ก็ขายต่อไปยังสาธารณรัฐโดมินิกันเพื่อแยกชิ้นส่วนขาย ทว่าหลังจากนำไปจอดทิ้งไว้ท่าเรือก็ปรากฏว่ามันหายไปอย่างลึกลับ ก่อนจะไปปรากฏอีกครั้งที่น่านน้ำสากลดังกล่าว อย่างไรก็ดี การกลับมาปรากฏตัวของเรือลำนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงปัจจุบัน ว่ามันหายไปได้อย่างไร และไปโผล่อยู่กลางมหาสมุทรเช่นนั้นได้อย่างไร
5. เรือใบร้างขนาดใหญ่ที่ไม่มีร่องรอยของลูกเรือ
ในปี 1921 มีการพบเรือใบลำใหญ่สวยงามขนาด 5 เสากระโดงจอดทิ้งร้างไว้ในนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐฯ เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีร่องรอยของการเตรียมอาหาร แต่น่าแปลกที่ลูกเรือกว่า 11 คนหายสาปสูญไปพร้อมกับอุปกรณ์เดินเรือและแพชูชีพ ซึ่งก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าพวกเขาหนีหายไปไหน หน่วยสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ FBI ได้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงการหายตัวไปของเหล่าลูกเรือในหลายทฤษฎีด้วยกัน เช่นการเกิดอุบัติภัยทางธรรมชาติอย่างพายุเฮอริเคน หรือการลักลอบขนส่งเหล้าแบบผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ และยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
ในปี 1921 มีการพบเรือใบลำใหญ่สวยงามขนาด 5 เสากระโดงจอดทิ้งร้างไว้ในนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐฯ เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีร่องรอยของการเตรียมอาหาร แต่น่าแปลกที่ลูกเรือกว่า 11 คนหายสาปสูญไปพร้อมกับอุปกรณ์เดินเรือและแพชูชีพ ซึ่งก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าพวกเขาหนีหายไปไหน หน่วยสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ FBI ได้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงการหายตัวไปของเหล่าลูกเรือในหลายทฤษฎีด้วยกัน เช่นการเกิดอุบัติภัยทางธรรมชาติอย่างพายุเฮอริเคน หรือการลักลอบขนส่งเหล้าแบบผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ และยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
6.ชะตากรรมลึกลับของเรือ Mary Celeste เรือร้างที่มีอายุกว่า 140 ปี
ในปี 1872 เรือ Mary Celeste บรรทุกแอลกอฮอล์เต็มลำ พร้อมกับลูกเรือ 7 คน ออกเดินทางออกจากฝั่งนิวยอร์กมุ่งสู่เจนัว โดยมีลูกเรือทั้งหมด 7 คน ซึ่งรวมไปถึงกัปตันเบนจามิน บิกส์ กับภรรยา และลูกสาววัย 2 ขวบของทั้งคู่ หลังจากนั้น 1 เดือนต่อมาก็มีคนพบเรือลำนี้จอดทิ้งไว้บริเวณหมู่เกาะอะโซร์ส ประเทศโปรตุเกส เมื่อตรวจสอบก็พบว่าสภาพใบเรือกางเต็มลำ ตัวเรือไม่ได้รับความเสียหาย ทั้งยังมีอาหารและเสบียงพอสำหรับ 6 เดือน แต่กลับไม่มีวี่แววของกัปตันและครอบครัว รวมถึงลูกเรือทั้ง 7 คนเลย จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสันนิษฐานแน่ชัดว่าลูกเรือทั้งหมดหายไปไหน
ในปี 1872 เรือ Mary Celeste บรรทุกแอลกอฮอล์เต็มลำ พร้อมกับลูกเรือ 7 คน ออกเดินทางออกจากฝั่งนิวยอร์กมุ่งสู่เจนัว โดยมีลูกเรือทั้งหมด 7 คน ซึ่งรวมไปถึงกัปตันเบนจามิน บิกส์ กับภรรยา และลูกสาววัย 2 ขวบของทั้งคู่ หลังจากนั้น 1 เดือนต่อมาก็มีคนพบเรือลำนี้จอดทิ้งไว้บริเวณหมู่เกาะอะโซร์ส ประเทศโปรตุเกส เมื่อตรวจสอบก็พบว่าสภาพใบเรือกางเต็มลำ ตัวเรือไม่ได้รับความเสียหาย ทั้งยังมีอาหารและเสบียงพอสำหรับ 6 เดือน แต่กลับไม่มีวี่แววของกัปตันและครอบครัว รวมถึงลูกเรือทั้ง 7 คนเลย จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสันนิษฐานแน่ชัดว่าลูกเรือทั้งหมดหายไปไหน
7. ปริศนาเรือ Ocean Wave กับการเสียชีวิตของศิลปินชาวดัตช์
ในปี 1975 ศิลปินชาวดัตช์ วัย 33ปี บอกลากับภรรยาของเขาและออกเดินทางเพียงลำพังจากแหลมค็อด ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก โดยเขาตั้งใจจะเดินทางไปที่งานแสดงในพิพิธภัณฑ์แสดงภาพของเขาในลอสแอนเจลิสเพื่อมาร่วมแสดงเป็นการปิดท้าย ทว่าหลังจากล่องเรือไปได้ 3 สัปดาห์ สัญญาณการติดต่อทางวิทยุของเขาก็หายไป โดยจุดสุดท้ายที่ติดต่อได้ เขาอยู่ที่หมู่เกาะอะโซร์ส ในประเทศโปรตุเกส ต่อมาเรือเดินมหาสมุทร Ocean Wave ก็ถูกพบลอยเคว้งโดยมีบางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ อยู่ห่างออกไป 150 ไมล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้นอกชายฝั่งของไอร์แลนด์ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาถูกคลื่นทะเลพัดจนเสียชีวิตหรือเขาตั้งใจกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตายกันแน่ .....
ในปี 1975 ศิลปินชาวดัตช์ วัย 33ปี บอกลากับภรรยาของเขาและออกเดินทางเพียงลำพังจากแหลมค็อด ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก โดยเขาตั้งใจจะเดินทางไปที่งานแสดงในพิพิธภัณฑ์แสดงภาพของเขาในลอสแอนเจลิสเพื่อมาร่วมแสดงเป็นการปิดท้าย ทว่าหลังจากล่องเรือไปได้ 3 สัปดาห์ สัญญาณการติดต่อทางวิทยุของเขาก็หายไป โดยจุดสุดท้ายที่ติดต่อได้ เขาอยู่ที่หมู่เกาะอะโซร์ส ในประเทศโปรตุเกส ต่อมาเรือเดินมหาสมุทร Ocean Wave ก็ถูกพบลอยเคว้งโดยมีบางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ อยู่ห่างออกไป 150 ไมล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้นอกชายฝั่งของไอร์แลนด์ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาถูกคลื่นทะเลพัดจนเสียชีวิตหรือเขาตั้งใจกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตายกันแน่ .....