ค้นหา

ที่นี่มีผี..รวมเรื่องลึกลับสยองขวัญสั่นประสาทตาเหลือกตากลับ
บางทีก็น่ากลัวบางทีก็ไม่น่ากลัวรวมๆกันไป
ที่นี่เปิด รับทุกอย่างที่เกี่ยวกับผีๆวิญญาณ
ท่านใดชอบเรื่องผีหรือมีคลิปผีถ่ายติดวิญญาณ.. น่าสนใจ..
ติดต่อส่งตั้งกระทู้มาที่ ghost-in-manman ด้านข้างครับ
แนะนำข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเชิญได้ครับ
ดูเว็บ ghost-in-manman แล้วหาความรู้เพิ่มเติม..ไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่ครับ
สุดท้ายขอขอบคุณเพื่อนๆที่ให้ความสนใจและ ให้ข้อมูลเรื่องน่ากลัวๆเรื่องประสบการณ์ทางวิญญาณ มาทางเราจะนำมาลงให้อ่านกันในครั้งต่อไปนะครับ.....
อย่าลืมดูเว็บ ghost-in-manman

chat love manman1

chat love manman 2

chat love manman 3

chat love manman 4

chat love manman 5

chat love manman6

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559

ชายลึกลับแบกโลงศพที่ทุลลามอร์


ชายแบกโลงศพที่ทุลลามอร์
เชื่อกันว่า ในบางครั้ง ดวงวิญญาณก็มาปรากฏร่างให้คนเราเห็น ก็เพื่อที่จะเตือนถึงเหตุร้ายที่จะเกิดในอนาคตกับบุคคลคนนั้น เหมือนดังเช่นเรื่องที่ลอร์ด ดัฟเฟอริน นักการทูตคนสำคัญของอังกฤษในสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย ได้ประสบด้วยตัวเอง

เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1887 ขณะนั้น ท่านลอร์ดดัฟเฟอรินได้มาพักผ่อนอยู่กับสหายที่คฤหาสน์ในทุลลามอร์ ประเทศไอร์แลนด์ โดยในค่ำคืนหนึ่ง ขณะที่ท่านกำลังจะเคลิ้มหลับนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้นที่ด้านนอกและด้วยความสงสัย ลอร์ดดัฟเฟอรินจึงลุกไปยืนดูที่หน้าต่าง ซึ่งจากตรงนั้น ท่านเห็นชายผู้หนึ่งกำลังแบกโลงศพเดินผ่านไป

ลอร์ดดัฟเฟอรินรู้สึกแปลกใจ ที่เห็นคนแบกโลงศพเดินเข้ามาในอาณาบริเวณของคฤหาสน์ ท่านจึงรีบออกจากคฤหาสน์และตรงเข้าไปถามชายผู้นั้นว่า เพราะเหตุใดจึงเดินแบกโลงศพผ่านเข้ามาในพื้นที่ส่วนบุคคลในยามดึกเช่นนี้  ทว่าชายลึกลับกลับเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าท่านลอร์ด และมองด้วยสายตาเขม็งจนลอร์ดดัฟเฟอรินถึงกับผงะเนื่องจากดวงหน้าที่ปรากฏในแสงไฟสลัวนั้นดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก แต่ความน่าสะพรึงกลัวยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะในเวลาเพียงชั่วครู่เดียว ร่างของชายลึกลับก็ค่อยๆจางหายไปในความมืดยามราตรี
โชคดีที่ลอร์ดดัฟเฟอรินมีสติพอที่จะไม่ตกใจกลัวจนเกินขนาดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในตอนเช้า ท่านลอร์ดก็ได้เล่าเรื่องของชายลึกลับให้กับสหายของท่านฟัง ซึ่งอีกฝ่ายก็ยืนยันว่า ที่นี่ไม่เคยมีใครพบเห็นภูตผีหรือวิญญาณมาก่อน

หลังจากเรื่องที่ทุลลามอร์ผ่านไปได้สิบปี ลอร์ดดัฟเฟอรินได้เดินทางไปรับหน้าที่เอกอัครราชทูตที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในตอนนี้ ท่านลอร์ดแทบจะลืมเรื่องของวิญญาณลึกลับที่ทุลลลามอร์ไปแล้ว จนกระทั่งในวันหนึ่ง ท่านลอร์ดได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยงรับรองที่โรงแรม แกรนต์โฮเตล ในกรุงปารีส

ขณะที่ลอร์ดดัฟเฟอรินกำลังจะก้าวเข้าไปในลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นบนของโรงแรมพร้อมกับแขกคนอื่นๆในงานนั้นเอง ท่านลอร์ดก็สังเกตเห็นพนักงานกดลิฟต์ที่ยืนรออยู่ในลิฟต์ และก็ต้องตกตะลึงจนต้องชะงักเท้าไว้ เนื่องจากใบหน้าของพนักงานผู้นั้นเหมือนกับใบหน้าของชายลึกลับแบกโลงศพ ที่ท่านลอร์ดเคยพบที่ทุลลามอร์เมื่อสิบปีก่อนไม่มีผิด
ลอร์ดดัฟเฟอรินเบิกตากว้างและก้าวถอยออกมาจากลิฟต์ ท่านลอร์ดตัดสินใจไม่ขึ้นลิฟต์เที่ยวนั้นและรอลิฟต์ตัวต่อไป และก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดเข้าหากัน  พนักงานกดลิฟต์ผู้นั้นก็แสยะยิ้มอย่างน่าสยองขวัญให้ท่าน

ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง สายเคเบิลที่ดึงลิฟต์ก็ขาดสะบั้น เสียงกรีดร้องของผู้คนในลิฟต์ดังขึ้นแต่ก็เพียงชั่วครู่เดียวก่อนที่จะมีเสียงโครมสนั่นดังตามมา เนื่องจากลิฟต์ตัวนั้นร่วงลงไปกระแทกกับพื้นเบื้องล่างพร้อมกับทุกชีวิตที่อยู่ในลิฟต์มรณะได้ดับดิ้นไปหมด ไม่เหลือแม้เพียงคนเดียว

ท่านลอร์ด ดัฟเฟอรินยืนมองเกตุร้ายเบื้องหน้าด้วยอาการตกตะลึง ถ้าหากว่าท่านลอร์ดก้าวเข้าไปในลิฟต์ด้วยแล้ว ท่านก็คงจะเป็นหนึ่งในศพที่แหลกเหลวอยู่เบื้องล่างเป็นแน่
หลังจากหน่วยกู้ภัยมาถึงและเก็บกู้ซากศพผู้เคราะห์ กลับปรากฏว่าในบรรดาศพที่อยู่ในลิฟต์ ไม่ปรากฏร่างของพนักงานกดลิฟต์ที่ลอร์ดดัฟเฟอรินเห็นแต่อย่างใด มันดูราวกับว่า พนักงานผู้นั้นได้ละลายหายไปก่อนที่ลิฟต์จะร่วงตกถึงพื้น

จากเหตุการณ์ทั้งหมด ลอร์ดดัฟเฟอรินเชื่อว่า ชายลึกลับแบกโลงศพที่ท่านพบเห็นที่ทุลลามอร์เมื่อสิบปีที่แล้วนั้น น่าจะเป็นวิญญาณที่มาปรากฏร่างให้ท่านเห็น เพื่อเตือนถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในแกรนต์โฮเตล

แต่หากว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นอย่างที่ลอร์ดดัฟเฟอรินคิด บางทีชายลึกลับผู้นั้นอาจเป็นตัวแทนของมัจจุราชที่มารอรับดวงวิญญาณของผู้ที่ชะตาขาดในอุบัติเหตุครั้งนั้นก็เป็นได้

รายการบล็อกของฉัน