ศพคู่รักกอดกัน 5 พันปี

  “ศพคู่รักกอดกัน 5 พันปี”

ความรักเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนมาก ความรู้สึกที่เรียกว่า “ความรัก” 

ในความนึกคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความรักจึงมีความหมายในหลายแง่หลายมุมมอง แต่ที่แน่ๆ ความรักเป็นสิ่งที่ดีและสวยงาม เป็นความรู้สึกที่ทุกคนจะต้องมีเกิดขึ้นในจิตใจ เพราะมันไม่ใช่แค่ความรักที่เกิดขึ้นเฉพาะหนุ่มสาวอย่างเดียว ความรักเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะรักพ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ มิตรสหาย หรือแม้แต่กระทั่งรักเพื่อนมนุษย์ที่เกิดมาร่วมโลกเดียวกัน

นักโบราณคดีอิตาลี ขุดพบโครงการกระดูกมนุษย์โบราณชายหญิงคู่หนึ่ง ที่คาดว่ามีอายุ 5,000 -6,000 ปี

หรือในปลายยุคนีโอลิธิค เมื่อวันจันทร์ และประเมินจากสภาพฟันว่า พวกเขาเสียชีวิตในวัยหนุ่มสาว โครงกระดูกอยู่ในสภาพกอดประคอง หันหน้าเข้าหากัน และข้างศพพบสิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง รวมทั้งหัวลูกธนู กับมีด 1 เล่ม โดยขุดพบบริเวณนอกเมืองแมนทัว ซึ่งอยู่ห่างเพียง 40 กิโลเมตร ทางใต้ของนครเวโรน่า ต้นกำเนิดตำนานโศกนาฏกรรมแห่งรักรันทด "โรมิโอ แอนด์ จูเลียต" ของกวีชาวอังกฤษ "วิลเลี่ยม เชคสเปียร์" 

   
เอเลน่า เมนอคคิ นักโบราณคดีซึ่งเป็นผู้นำการขุดค้นกล่าวว่า  ไม่เคยพบการฝังศพคู่กันในยุคนีโอลิธิค ซึ่งเป็นยุคที่มนุษย์ยึดระเบียบแบบแผนกันมาก และโครงกระดูกอยู่ในสภาพกอดกันด้วย ที่ผ่านมานักโบราณคดีได้ขุดพบหลุมฝังศพ 30 หลุมซึ่งล้วนเป็นหลุมฝังศพเดี่ยว กับพบซากที่เหลืออยู่ของหมู่บ้านซึ่งเคยรุ่งเรืองหลายแห่ง พร้อมสิ่งประดิษฐ์จำนวนมาก เช่น หินเหล็กไฟ,หม้อไห และเขาสัตว์

        

สำหรับข่าวไม่น่าเชื่อในวันนี้ ก็เป็นข่าวเกี่ยวกับความรักที่ยิ่งใหญ่ของชายหญิงคู่หนึ่ง
    

นักโบราณคดีอิตาลีนำทีมโดย เอเลนา เมนอตติ นักโบราณคดีหญิงซึ่งทำงานด้านโบราณคดีมา 25 ปี ขุดพบฟอสซิลโครงกระดูกของชายหญิงที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคู่รัก เพราะอยู่ในสภาพ นอนกอดกัน ในเขตนิคมอุตสาหกรรม

 
เมืองวัลโดโร ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี คาดว่ามีอายุมากกว่า 5,000 ปี นักโบ-
ราณคดีกำลังวิเคราะห์ว่า ชายหญิงคู่นี้เสียชีวิตขณะอายุเท่าไร
               

เมนอตติ กล่าวว่า ตนตื่นเต้นมากเพราะที่ผ่านมาเคยมีการขุดพบโครงกระดูกของแม่กอดลูก แต่ยังไม่เคยมีใครขุดพบโครงกระดูกของชายหญิงมาเป็นคู่กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพที่กอดกันแบบนี้ ตนเดินทางขุดสำรวจมาทั่วอิตาลี รวมทั้งที่แหล่งโบราณคดีชื่อดังที่เมืองปอมเปอี ก็ไม่เคยพบเห็นอะไรเช่นนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น

ทั้งชายและหญิงน่าจะเสียชีวิตขณะมีอายุไม่มากเพราะยังมีฟันอยู่ ทีมได้ส่งชิ้นส่วนตัวอย่างไปตรวจสอบในห้องทดลองแล้ว เพื่อค้นหาว่าทั้งคู่เสียชีวิตขณะอายุเท่าไร พร้อมตั้งสมมติฐานว่า ผู้ชายน่าจะเสียชีวิตก่อน หลังจากนั้นจึงมีการสังหารผู้หญิงในลักษณะบูชายัญ เพื่อให้วิญญาณติดตามไปเป็นเพื่อนฝ่ายชายในชีวิตหลังความตาย
           

สำหรับโครงกระดูกที่พบอยู่ในลักษณะนอนตะแคงตัวหันหน้าเข้าหากัน แขนและขากอดก่ายกัน โครงกระดูกของผู้ชายซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือของภาพ มีลูกธนูฝังอยู่ที่กระดูกสันหลัง ขณะที่ผู้หญิงมีหัวลูกธนูฝังที่ด้านข้างลำตัว พื้นที่ดังกล่าวในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านของชาวโรมัน และในช่วง 5,000 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นลุ่มน้ำขังและแม่น้ำไหลผ่านช่วยรักษาโครงกระดูกให้คงสภาพอยู่ได้เกือบจะสมบูรณ์

          

ให้ตายสิ! กอดกันนานมากๆๆๆ...เลย อืม..ถ้าเกี่ยวข้องกับการบูชายัญ ก็ต้องเป็นคู่รักที่รักกันมากๆ...มากสุดๆ แน่ๆ เลย เพราะถึงขนาดยอมตาย เพื่อให้ตัวเองได้ติดตามไปอยู่กับคนรักหลังจากตายไปแล้ว ไม่อยากจะเชื่อ?..เวลา 5,000 ปี มันนานมาก...

แต่โครงกระดูกยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก...ทำไมไม่ผุพังเป็นผุยผงไปตามธรรมชาติ แปลกจริงๆ