ตำนานผีเปรตของญี่ปุ่น จิกินินกิ

ตำนานผีเปรตของญี่ปุ่น “จิกินินกิ” ผีเปตรสุดสยองที่เอาตัวรอดด้วยการกินศพ!

ตามตำนานแห่งพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นของประเทศอะไรก็ตาม เรามักจะเคยได้ยินสัมภเวสีที่ได้รับผลบาปสาหัสสากัลป์ อย่าง เปรตกันมาบ้างแล้ว โดยเปรตที่เราได้ยินหรือเห็นนั้น ส่วนใหญ่จะมีลักษณะตัวสูง มือใหญ่เท่าใบลาน และปากกว้างเท่าแค่รูเข็มเท่านั้น ซึ่งในอดีตจนถึงปัจจุบัน เรามักจะเห็นผู้คนพบเปรตชนิดนี้อยู่บ่อยๆ เพราะเป็นเปรตประเภทเดียวที่สามารถอยู่บนโลกมนุษย์ได้ ทั้งที่ความจริงแล้ว ประเภทของเปรตยังมีอยู่อีกมากมายแตกต่างกันออกไป และไม่ได้มีเพียงแค่ของไทยที่น่ากลัวเท่านั้น แต่ที่ญี่ปุ่นก็ยังมีด้วยเหมือนกัน ชื่อว่า จิกินินกิ

จิกินินกิ ตามตำนานจะเรียกว่าสัมภเวสีที่ต้องคอยรับกรรมเป็นอสูรกายก็ได้ เพราะรูปร่างจะไม่เหมือนกับเปรตของไทยเราเท่าไหร่นัก มันมีลักษณะหน้าตาที่น่าเกลียดน่ากลัว ตัวผมมีพุง ผิวหยาบและน่าขยะแขยง พฤติกรรมของ จิกินินกิ สามารถแปลงกายเป็นคนได้ด้วยตามอิทธิฤทธิ์ แต่จะไม่สามารถออกไปยังพื้นที่ได้มากเท่าไหร่ นอกจากจะออกมาหากินตอนกลางคืน สิ่งที่มันชอบกินมากที่สุดคือ ศพคนตาย 

ซึ่งมีตำนานหนึ่งเล่าว่า จิกินินกิ สามารถคว้าศพ ดึงแขน ขา หรือควักเครื่องในกินสดๆได้ทั้งอย่างนั้นเลย เนื่องจากเวรกรรมที่ก่อให้เกิดความหิวนั้น ทุกข์ทรมานกว่าสิ่งใดๆทั้งสิ้น

สาเหตุที่ จิกินินกิ ต้องรับกรรมกินศพจนกว่าจะสิ้นเวรกรรมเป็นเพราะ ในตอนที่ยังเป็นคน เขาได้เป็นนักบวช แต่มีนิสัยโลภมากเห็นแก่เงินทอง และพยายามเรียกเงินเกินกว่าที่ควร แถมยังนำเงินไปใช้ในทางอบายมุข พอตายไปก็จะเป็นเปรตจิกินินกิผู้หิวโหย และกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักอิ่มอยู่อย่างนี้ คล้ายกับตำนานความเชื่อของเปรตไทยและผีวิญญาณมากมายที่ต้องรับกรรมหลังจากสิ้นอายุขัย ซึ่งหากใครที่หลงมัวเมาอยู่แต่กับอบายมุข ตายไปก็อาจจะเป็นผีหรืออสูรกาย แต่ถ้าใครทำดี ฝักใฝ่ในศีลธรรม ก็จะหลุดห่างออกไปจากวังวนความทุกเหล่านี้ได้ จะได้ไม่ต้องมาเป็นเปรต หรือ จิกินินกิ นั่นเอง