บริเวณวัดแห่งนี้ก็ยังใช้เป็นลานประหารชีวิตเฉลยพม่าในการตัดคอ ซึ่งก็มีเรื่องเล่ากันว่า มีคนเคยเห็นร่างของผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ นุ่งผ้าโจงกระเบน แต่ไม่มีหัวมายืนอยู่ให้เห็น
ส่วนสถานที่ที่นำศพเหล่านั้นมาฝัง ก็คือบริเวณที่เป็นวงเวียนสนามวัดสุวรรณาราม และลานวัดสุวรรณารามในปัจจุบัน ที่เชื่อว่าบริเวณนี้ เป็นสถานที่ที่เคยฝังศพ เนื่องจากว่าเมื่อครั้งมีการขุดปรับแต่งพื้นที่บริเวณนี้ ก็มีคนพบกระดูกคนอยู่มากมาย
ส่วนสถานที่ที่นำศพเหล่านั้นมาฝัง ก็คือบริเวณที่เป็นวงเวียนสนามวัดสุวรรณาราม และลานวัดสุวรรณารามในปัจจุบัน ที่เชื่อว่าบริเวณนี้ เป็นสถานที่ที่เคยฝังศพ เนื่องจากว่าเมื่อครั้งมีการขุดปรับแต่งพื้นที่บริเวณนี้ ก็มีคนพบกระดูกคนอยู่มากมาย
มีเรื่องเล่าน่ากลัวว่า มีคนเคยพบเห็นกระดูกท่อนขาหรือท่อนแขนก็ไม่ทราบ แต่ก็มีกำไลทองคล้องอยู่ แสดงว่าเจ้าของกำไลนั้น น่าจะเป็นทหารพม่า ระดับนายกองชั้นผู้ใหญ่พอควร คนที่ขุดเจอกำไล ก็เอาไปขายนำเงินมาซื้ออาหารให้ภรรยาที่กำลังท้อง แต่คืนนั้นก็ฝันเห็นทหารพม่ามาบีบคอ ทวงกำไลคืน และภรรยาก็เสียชีวิต แบบที่เรียกได้ว่าตายทั้งกลม
ต่อมาจึงมีการตั้งศาลเพียงตาไว้ที่บริเวณโรงเรียนวัดสุวรรณแห่งนี้ ที่น่าสนใจก็คือ หากใครที่มาไหว้ศาลแห่งนี้ แล้วมองเข้าไปในศาล ก็จะเห็นภาพวาด เป็นรูปกองทหารพม่าไว้สามรูป แทนที่จะมีจเวกอยู่ด้านในแบบศาลพระภูมิทั่วไป คงเพื่อเป็นการระลึกถึงดวงวิญญาณทหารพม่าที่เสียชีวิตในอดีต อีกทั้งด้านหน้าศาลก็ยังมีพิระมิดเล็กๆตั้งไว้ด้วย โดยมีความเชื่อกันว่าสถานที่ตรงไหนที่มีความอาถรรพ์มากๆ ก็จะใช้พิระมิดสะท้อนสิ่งอาถรรพ์นั้นออกไป