สิ่งที่พบบนเกาะปะการังร้างนี้อาจจะเป็น UFO ก็ได้นะครับเพราะว่ายังไม่ได้รับการสำรวจแต่ทำเป็น UFO จริงๆแสดงว่ามันต้องตกลงมาบนพื้นโลกที่นี่นานมาแล้ววัตถุลึกลับบนเกาะสตาร์บัค ที่ผู้คนเชื่อว่าเป็น UFO ที่ตกลงบนพื้นทรายร่องรอยเหล่านั้นสามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ถ้ามันเป็นความจริงองการนาซ่า อาจจะเก็บซ่อนความลับอันนี้ไว้ก็ได้นะครับ
มันเลยทำให้ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์มีเพิ่มมากมันอาจจะเป็น UFO มนุษย์ต่างดาวแน่ๆดูจากภาพแล้วสมมติฐานเอาว่ามันอาจจะร่อนตกลงมาและจมฝังลงไปในทรายก็อาจจะเป็นได้
วัตถุลึกลับบนเกาะสตาร์บัค ที่ผู้คนเชื่อว่าเป็น UFO ที่ตกลงบนพื้นทราย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวเน็ตรายหนึ่งได้ใช้ Google Earth สำรวจโลกโดยเฉพาะสถานที่ที่เขาไม่รู้จัก และหลังจากที่ซูมภาพเข้าไปบนเกาะแห่งหนึ่ง เขาก็ได้พบกับสิ่งที่เชื่อว่าเป็น UFO ที่ตกลงบนพื้นโลก
วัตถุแปลก ๆ ถูกพบบนเกาะสตาร์บัค ประเทศคิริบาส ซึ่งเป็นเกาะร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ พื้นที่บนเกาะแห่งนี้ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยทราย แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่แปลกประหลาดไม่เหมือนสภาพแวดล้อมโดยรอบ
เกาะแห่งนี้มีชื่อเหมือนกับร้านกาแฟชื่อดังอย่างสตาร์บัคส์ ซึ่งเป็นเกาะปะการังที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ บริเวณตอนกลางของมหาสมุทรแปซิก โดยมีพื้นที่ประมาณ 1 หมื่นไร่ เป็นเกาะเตี้ย ๆ ที่เต็มไปด้วยความแห้งแล้ง มีพืชเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เติบโตบนเกาะแห่งนี้ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีความน่าสนใจเท่ากับวัตถุประหลาดที่อยู่บนนั้น
“ผมต้องการสำรวจมหาสมุทรบน Google Earth จนกระทั่งผมสังเกตเห็นบางสิ่งที่น่าขนลุก” ผู้ใช้กล่าว
“เกาะทรายแห่งนี้อยู่ห่างไกลมาก ผมเริ่มสำรวจไปเรื่อย ๆ จนสังเกตเห็นบางสิ่งที่มันดูแปลก ๆ นี่มันคืออะไร ทำไมถึงมาอยู่บนเกาะร้างแห่งนี้”
“มันแปลกมากที่เห็นมัน นี่อาจเป็น UFO ที่ตกลงมาได้หรือไม่”
ในขณะที่ชาวเน็ตจำนวนมากต่างไม่เชื่อว่ามันจะเป็น UFO ได้ง่าย ๆ แบบนั้นจริงหรือ
“มันเป็นส่วนหนึ่งของเรืออับปางจากปี 1800 กระแสน้ำได้พัดมันเข้าฝั่งและอยู่ตรงนั้นมาตลอดหลายทศวรรษ” ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าว
“มีเรือจำนวนมากที่จมลงบริเวณเกาะนั้นในศตวรรษที่ 19” ชาวเน็ตอีกคนเสริม
“มันเป็นอาคารที่ถูกทิ้งในศตวรรษที่ 19 และถูกตั้งชื่อว่า สตาร์บัค ตามชื่อของกัปตันที่พบมัน” ชาวเน็ตอีกคนกล่าว
ในขณะที่การค้นพบวัตถุลึกลับบนเกาะแห่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เคยมีคนที่พบมันมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังไม่มีใครที่สามารถหาคำตอบได้ว่าจริง ๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่
